ต้มกะทิปลีกล้วย หรือ หัวปลีต้มกะทิ
สูตรอาหารไทย อาหารใต้ "
ต้มกะทิปลีกล้วย" หรือ "
หัวปลีต้มกะทิ" ต้มใช้หางกะทิก็อร่อยได้
ปลีกล้วยได้มาจากริมถนนตอนไป
ปั่นจักรยาน เห็นปลีกล้วยริมถนน เก็บมา 2 ปลีพอแกงได้หนึ่งมื้อ สูตรต้มกะทิ แกงกะทิปลีกล้วยไม่ยาก ติดตามสูตรและวิธีทำได้ ณ บัดนี้ พร้อมข้อมูลประโยชน์ที่ได้จากปลีกล้วย
Advertisment
สูตรและวิธีปรุง
ปลีกล้วย หรือหัวปลี 2 หัว, มะขามเปียก 1 แปะ, หมูสามชั้น 1 ขีด, หางกะทิ, เกลือ 2 ช้อนชา, น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา, ใบมะกรูด 5 ใบ, มะนาว 1 ลูก
วิธีปรุง
เอาเปลือกหัวปลีออกให้เหลือแต่เปลือกขาว ใช้มีดหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ นำไปแช่น้ำพร้อมกับบีบน้ำมะนาวลงไป(เพื่อไม่ให้หัวปลีออกสำดำเมื่อแกง) จากนั้นนำมะขามเปียกแช่น้ำ จากนั้นหั่นหมูชิ้นบางพักไว้ นำน้ำกะทิตั้งไฟรอเดือดให้ใส่หมูลงไป ตามด้วยเกลือ ตามด้วยน้ำมะขามเปียก ตามด้วยน้ำตาล ตามด้วยปลีกล้วย(หัวปลี) จากนั้นชิมให้ออกรสเปรี้ยวเค็มมัน ใส่ใบมะกรูด ถ้าใครชอบเผ็ดนิด ก็บุบพริกสดลงไป ตักใส่จาน
|
ต้มกะทิปลีกล้วย,หัวปลีต้มกะทิ |
|
ปลีกล้วย, หัวปลี |
|
หางกะทิ |
|
เนื้อหมู |
|
มะขามเปียก |
ปลีกล้วย, หัวปลี ประโยชน์ (ที่มา: http://www.kroobannok.com/)ปลีกล้วย คือดอกรวมที่มีกาบขนาดใหญ่ห่อหุ้มอยู่ภายนอกเรียงตัวทับซ้อนกันแน่นเป็นรูปดอกบัวตูมทรงสูง แต่ดอกกล้วยที่แท้จริงก็คือส่วนที่เป็นหลอดสีเหลืองที่ติดและเรียงตัวอยู่รอบแกนขนาดใหญ่รวมกันเป็นช่อดอกแต่ละช่อจะถูกแบ่งกั้นด้วยกาบที่มีสีน้ำตาลแดงเป็นชั้น ๆ กล้วยหนึ่งดอกจะเจริญเป็นผลกล้วยเพียงหนึ่งผล กล้วยหนึ่งช่อก็คือกล้วยหนึ่งหวี และกล้วยหลาย ๆ หวีมารวมกันเราเรียกว่ากล้วยหนึ่งเครือหัวปลี กินได้ทั้งแบบดิบและสุก แบบดิบทำในรูปของผักเป็นเครื่องเคียง รสชาติฝาดถ้านำไปปรุงสุก รสชาติจะนุ่มหวานนิด ๆ หัวปลี เป็นอาหารบำรุงน้ำนมของผู้หญิงที่กำลังมีบุตร มีธาตุเหล็กอยู่มาก
ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร อุดมไปด้วย แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ และ ซี ในตำรายาพื้นบ้านของประเทศอินเดีย ได้ระบุว่า น้ำคั้นจากหัวปลีกล้วยมีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด ปลีกล้วยจึงเป็นอาหารสมุนไพรอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน.
Advertisment
ท้ายสุด
อาหารไทย by Aerk แนะนำให้ลองทำแกง
ต้มกะทิปลีกล้วย หรือ
หัวปลีต้มกะทิ อร่อยมาก ได้ประโยชน์เต็ม สูตรอาหารบ้านๆ แต่ประโยชน์ คอนโด
0 comments:
แสดงความคิดเห็น