Pages

วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตรอร่อย ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว เพิ่มสีสันของเมนูอาหาร

สูตรอร่อย ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว

ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว
ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว 




ผัดพริกแกงหมู เพื่อทำขายข้าวราดแกง ผัดพริกแกงเป็นอาหารของภาดกลางที่นิยมทานกันทั่วไป และสามารถจะใส่ผักอะไรก็ได้ แต่ที่นิยมกันมากก็คือ ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว และช่วงนี้ เดือนธันวาคม ราคาของถั่วก็ไม่แพง ประมาณ 35 บาท/กก












ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว
ผัดพริกแกงหมูกับถั่วฝักยาว

เครื่องปรุง
1) ถั่วฝักยาว                          1                       กก.
2) เนื้อหมูหั่นบางๆ                 1                      กก.
3) พริกแดงใหญ่                     5                     ลูก
4) น้ำตาลทราย                      1                     ช้อนแกง
5) ซีอิ๊วขาว                             2                     ช้อนแกง
6) พริกแกงเผ็ด                       1                     ขีด





วิธีทำ
หั่นถั่วฝักยาว พอดีคำ และล้าง จากนั้น ตั้งน้ำให้เดือด และนำถั่วฝักยาวลงไปลวกให้มองดูสีของถั่วเป็นสีเขียว ยกขึ้นและพักไว้ก่อน  จากนั้น นำกะทะ ตั้งน้ำมันให้เดือด และใส่เครื่องแกงลงไป ผัดให้หอมซักพัก นำเนื้อหมูลงไปผัดพร้อมกับเครื่องแกง จากนั้นปรุงให้ได้รสชาติ ตามต้องการ และขั้นตอนสุดท้าย ให้นำถั่วที่พักไว้ลงไปผัด จะเห็นว่ามีสีสันของถั่วฝักยาวสีเขียว และจากนั้น ให้หั่นพริกแดงแล้วโรยลงไปเป็นอันเสร็จขั้นตอนการ ผัดพริกแกงหมู กับถั่วฝักยาว พร้อมขาย กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อย สุดๆ





รวมสูตรข้าวแกง

สูตร วิธีทำ ไข่ลูกเขย

สูตร วิธีทำ ไข่ลูกเขย


ไข่ลูกเขย มีดีที่ความหวานมันอร่อยจาก น้ำซอส และไข่เป็ด การทำเมนูไข่ลูกเขย เดี๋ยวนี้ลัดขั้นตอนลงไปบ้างเพื่อความรวดเร็ว และสะดวก โดยไม่ต้องต้มไข่ คือ สามารถซื้อได้จากตลาดที่ร้านขายไข่ต้มเสร็จ ราคา ประมาณ 20 ใบ 80 บาท



Advertisement



สูตร วิธีทำ ไข่ลูกเขย
สูตร วิธีทำ ไข่ลูกเขย

เครื่องปรุง
1) ไข่เป็ดต้มสุก                20                 ฟอง
2) หัวหอมแดง                  10                 หัว
3) กะเทียมใหญ่                 10                กลีบ
4) พริกแห้ง                        1                  กำมือ
5) น้ำตาลทรายขาว            1/2               กก.
6) ผักชี                               3                  ต้น
7) น้ำมันพืช
8) มะขามเปียก                   1                  ก้อน
9) เกลือ                              1                  ช้อนชา                      



วิธีทำ
ซอยหัวหอม และกะเทียม ให้ซอยเป็นชิ้นบางๆ พักไว้ก่อน จากนั้นให้ตั้งกะทะให้รอนแล้วใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยหอมที่ซอย แล้วเจียวหอมซอยให้เหลือง และตักหอมใส่จานพักไว้ก่อน จากนั้น ทำการเจียวกะเทียมให้เหลือง และใส่จานพักไว้ก่อน จากนั้นทำการเติมน้ำมันพืชเพื่อที่จะทอดไข่เป็ด ขั้นตอนการทอดไข่เป็ด จะต้องทอดไข่เป็ดอย่าให้ไหม้ ให้ทอดใช้ไฟอ่อนๆ ทอดจนหมดและพักไว้ก่อน

มาถึงขั้นตอนนี้ สิ่งที่เตรียมและพักไว้ก็คือ
หอมซอย ทอด, กระเทียมซอยทอด, ไข่เป็ดทอด, พริกทอด

ขั้นตอนการทำ น้ำซอสไข่ลูกเขย
1) เคี่ยวน้ำตาล จากนั้นใส่น้ำมะขามเปียก และ เกลือลงไป ทำการเคี่ยวให้เข้ากัน ชิมรสให้เปรี้ยวอมหวาม และเค็มนิดๆ เป็นอันเสร็จ น้ำซอสไข่ลูกเขย

ขั้นตอนสุดท้ายการทำไข่ลูกเขย
ให้นำไข่เป็ดที่ทอดแล้ว นำใส่กะบะและทำการผ่าซีก ทั้งหมด จากนั้น ให้ทำการราดน้ำซอสลงบนไข่ลูกเขย จากนั้นทำการจัดแต่งให้สวยงามด้วย ผักชีโรยหน้า และ ตามด้วยพริกทอด เป็นอันเสร็จขั้นตอนสุดท้ายของการทำไข่ลูกเขย พร้อมขาย และกินกับข้าวสวยร้อนๆ

ติดตามสูตรข้าวแกง
ติดตามความเคลื่อนใหวหน้าหลัก


วันอังคารที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

แค่น้ำพริกกะปิ กับ ผักสดก็พอแล้ว

แค่น้ำพริกกะปิ กับ ผักสดก็พอแล้ว
มื้อนี้ไม่เน้นกับข้าว แต่เน้น น้ำพริกกะปิและผักสดซัก 2 - 3 อย่างก็พอแล้ว สร้างสีสันให้กับผักสดด้วยการเลือกผักที่มีสีสัน ซักหน่อย

น้ำพริกกะปิ
ชุด ผัก กับ น้ำพริกกะปิ


ผักสดที่เลือกก็มี มะเขือเปาะสีม่วง ถั่วฝักยาว แตงกวาซักลูก พร้อมด้วย น้ำพริกกะปิ สูตรเด็ดของ บล็อค อาชีพขายข้าวแกง และกินกับข้าวสวยร้อนๆ ก็พอแล้ว มื้อนี้ เช้านี้

รวมอาหาร และได้วิตามินจากผัก ไม่มาก และ ไม่น้อย


มะเขือม่วง ถั่วฝักยาว แตงกวา

ขอแค่ น้ำพริกกะปิ กับ ผักสด ล้าง และแช่ด่างทับทิม กิน กับข้าวแกง ซักจากก็พอแล้ว

วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตร ผัดเปรี้ยวหวาน หมู อร่อย ทำขายข้าวแกง ง่าย

สูตร ผัดเปรี้ยวหวาน หมู
ผัดเปรี้ยวหวาน เป็นอาหารที่เด็ก ผู้ใหญ่ทานได้ ใครไม่กินเผ็ดก็กินได้ ผัดเปรี้ยวหวานเป็นอาหารที่รวมผักมากมาย คนไทยนิยมกินกัน มาดูสูตรผัดเปรี้ยวหวานและวิธีทำกัน เพื่อทำข้าวแกงขาย

สูตร ผัดเปรี้ยวหวาน หมู
หน้าตา ผัดเปรี้ยวหวาน หมู


ส่วนผสม
1) สับปะรดสุกห่าม                1                ลูก
2) ต้นหอม                             5               ต้น
3) น้ำตาลทราย                     2               ช้อนแกง
4) เกลือ                                1                ช้อนแกง
5) พริกหยวกหลากสี             6               ลูก
6) เนื้อหมู                              1               กก.
7) พริกแดงใหญ่                    5               ลูก
8) ซีอิ๊วขาว                            2               ช้อนแกง
9) กะเที่ยม                            1                กำมือ
10) น้ำมันพืช                         2               ช้อนแกง

พริกหยวก
หน้าตา พริกหยวก


วิธีทำ
หั่นพริกหยวก หั่นต้นหอม หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ พอดีคำ และทำการปอกสับปะรดและหั่นเป็นชิ้นบางๆ พักไว้ก่อน (หรือใครที่ซื้อแบบหั่นมาก็ได้)  ตั้งน้ำมันพืชให้ร้อนด้วยกะทะ โขลกกะเทียมแล้วใส่ลงไป เจียวกะเทียมให้หอม เหลืองได้ที่ ใส่เนื้อหมูลงไป เร่งแก็สให้แรง ทำการผัดหมูให้สุก จากนั้น ใส่สับปะรดลงไป ใส่น้ำเปล่าลงไป จากนั้น เติมเครื่องปรุง น้ำตาลทราย เกลือ ซีอิ๊วขาว ลงไป ชิมรส เปรี้ยวนำ หวาม และ เค็มตาม จากนั้นใส่พริกหยวก พริกแดง ต้นหอม เพิ่มสีสันของ ผัดเปรี้ยวหวาน พร้อมเปิดขายข้าวแกง กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากๆ ขอบอก

เคล็ดลับ ทำ ผัดเปรี้ยวหวาน ให้น่ากิน เมื่อชิมแล้วต้องมีรสชาติ เปรี้ยวนำ หวาน และ เค็มตาม และที่สำคัญที่ขาดมิได้ก็คือ จะต้องมีสีสันที่ชวนกิน คือ จะต้องมีพริกหวาน หรือพริกหยวก ประกอบด้วย

สูตรเด็ด ข้าวราดแกง
เคล็ดลับ สูตรข้าวราดแกง

วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

วิธีทำ ข้าวผัดปูขาย ทำเร็ว รสชาติอร่อยมากๆ

วิธีทำ ข้าวผัดปูขาย
บ่อยครั้งที่ข้าวจากการขายข้าวแกงเหลือ แล้วจะมีวิธีการจัดการยังงัย เพื่อให้ได้เงินเพิ่มขึ้นมาอีกนิดนึง ก็หันมามองข้าวผัดปู จริงๆ แล้วจะเป็นข้าวผัดอะไรก็ได้ เช่น ข้าวผัดหมู ข้าวผัดกุ่ง แต่วันนี้จะเป็นข้าวผัดปู ที่ใครๆ ก็อยากจะทำกิน ทำขาย สูตรนี้เป็นสูตรทำขายที่ผัดข้าวในปริมาณมาก


วัตถุดิบ

1) เนื้อขาปูแกะแล้ว             1         กก.
2) ต้นหอม                           10       ต้น
3) ผักชี                                4         ต้น
4) กะเทียม                          1         กำมือ
5) น้ำตาลทราย                   2         ช้อนแกง
6) น้ำปลา                            2         ช้อนแกง
7) ข้าวเปล่า                        1          หม้อใหญ่
8) มะนาว                         
9) พริกแดง                          1         กำมือ
10) น้ำมัน หรือ เนย              2        ช้อนแกง
11) ซีอิ๊วขาว                         2        ช้อนแกง
12) ไข่ไก่                             10      ฟอง

วิธีทำข้าวผัดปู
หั่นต้นหอมและผักชีพักไว้ก่อน ทำการโขลกกะเทียมให้พอแหลกพักไว้ จากนั้น นำน้ำมันใส่กะทะ และกะเทียมลงไป คั่วกะเทียมให้หอม จากนั้นนำข้าวลงไปผัดซักพัก และนำปูใส่ลงไป และผัดรวมลงไปกับข้าวอีกที ใส่น้ำตาลทราย น้ำปลา ซีอิ๊วขาว ผัดจนมีกลิ่นหอม และพักไว้ก่อน จากนั้นทำการผัดไขไก่ โดยการตอกไข่ทั้งหมดลงกะทะอีกใบนึง และทำการผัดไข่ให้สุกพอแตก จากนั้นนำไข่ที่ได้ทำการใส่ลงไปในข้าวผัดที่ได้พักไว้ ทำการผัดจนไข่กับข้าวเข้ากันได้ดี ขั้นตอนสุดท้าย ทำการนำต้นหอมและผักชีที่หั่นไว้มาใส่ลงไป และผัดอีกรอบ เป็นอันเสร็จขั้นตอนการทำข้าวผัดปู พร้อมขาย

ข้าวผัดเป็นอาหารจานด่วน แต่เราก็สามารถดัดแปลงนำมาผัดขายเป็นข้าวกล่องได้ สูตรข้าวผัดปูสูตรนี้สามารถทำขายได้เลย ส่วนจะเป็น ข้า่วผัดหมู ข้าวผัดกุนเชียง ก็เพียงเปลี่ยนเป็นอันนั้นไป

ติดตามสูตรข้าวแกง
ติดตามเคล็ดลับ สูตรข้าวแกง

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตรทำ น้ำพริกกะปิ มะดัน อร่อยมาก

สูตรทำ น้ำพริกกะปิ มะดัน อร่อยมาก
หน้ามะนาวแพง เราไม่ต้องง้อมะนาว เราใช้มะดันแทนมะนาว ทำน้ำพริกกะปิแทน ราคาไม่แพง แล้วรสชาติก็ออกมาอร่อยมากๆ ขอบอก มาดูวิธีการทำ น้ำพริกกะปิ กัน
น้ำพริกกะปิ

สูตรน้ำพริกกะปิ มะดัน
น้ำพริกกะปิ มะดัน


วัตถุดิบ
1) พริกสด            2             ขีด
2) กะปิน้ำพริก อย่างดี             2      ช้อนแกง
3) น้ำตาลทราย                      2      ช้อนแกง
4) มะดันสด                           5       ลูก
5) น้ำเปล่าสะอาด                 1       แก้วชงนม
6) กะเทียม                           1       กำมือ

วิธีทำ
นำพริกสดเอาขั้วออกและกะเทียมล้างน้ำสะอาด แล้วเทใส่ลงครก จากนั้นตำให้พอแหลก ให้ใส่กะปิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และทำการตำคลุกเคล้าให้ กะปิ น้ำตาล พริก ให้เข้ากัน และพักไว้ก่อน จากนั้น ให้ซอยมะดันให้เป็นชิ้นเล็ก และทำการใส้มะดันที่ซอยลงไปในครก เพื่อรวมกับพริกที่ตำไว้ ให้ทำการตำให้มะดันรวมเข้ากันและแหลก หลังจากนั้นให้ใส่น้ำเปล่า คนให้น้ำพริกเข้ากันกับน้ำเป็นอันเสร็จ และเทใส่โถ พร้อมกินกับผักสด อันแสนอุดมไปด้วย วิตามิน รสชาติน้ำพริกกะปิ จะออมา อร่อยไม่ต่างกับ มะนาว จะบอกให้

ติดตามสูตรข้าวแกง ได้ที่นี่
ติดตามความเคลื่อนใหวของ http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตรทำ พริกน้ำปลา พริกสด พริกป๊อป

สูตรทำ พริกน้ำปลา พริกสด พริกป๊อป
ร้านอาหารที่ใหน ร้านข้าวแกง จะขาด พริกน้ำปลาไม่ได้ จะว่าไป พริกน้ำปลาสำคัญมาก ถ้าขาดไป ก็เหมือนว่าขาดรสชาติของโต๊ะอาหาร นั่นเอง ใครที่ไม่ได้กิน ก็ขอแค่ได้ดูสีสันของพริก สีแดง สีเขียว ก็พอใจแล้ว
พริกน้ำปลา
พริกน้ำปลา

พริกน้ำปลา
พริกน้ำปลา


สูตรการทำพริกน้ำปลา ก็แล้วแต่จะดัดแปลงกันทำ ตามวัตถุดิบที่มี ถ้าหน้าใหน มะนาวแพง ก็เลี่ยงใช้อย่างอื่นได้ มีผลไม้ที่ให้ความเปรี้ยว เยอะแยะมากมาย เช่น ระกำ มะดัน มะยม ตะลิงปิง

เรามาทำพริกน้ำปลาที่ไม่ใช้มะนาวกัน คือใช้มะดันแทน หน้ามะนาวแพงเราไม่ง้อ

วัตถุดิบ
1) มะดัน      5     ลูก
2) น้ำปลาอย่างดี     20 ช้อนแกง
3) น้ำตาลทราย      2   ช้อนแกง
4) พริกสด (พริกป๊อป)              20  เมล็ด

วิธีทำ
หั่นมะดัน หรือซอยเป็นชิ้นเล็ก และบุบให้น้ำเปรี้ยวออกพักไว้ก่อน นำน้ำปลาใส่ถ้วยแก้ว ตามด้วยน้ำตาล จากนั้นคนให้น้ำตาลละลาย ลองชิมจะมีรสชาติหวานนิดๆ จากนั้นใส่พริกซอยลงไป และตามด้วยมะดัด และคนจนเข้ากัน และลองชิมจะมีรสชาติ เค็ม หวาน และเปรี้ยวตาม

เคล็ดลับในการทำให้ พริกน้ำปลา น่ากิน คือ สีสัน ของพริกสด พริกแดงสด พริกเขียวสด เมื่อหันหรือซอยแล้ว ก็จะมีสีน่าชวนกิน

ติดตาม สูตรข้าวแกง ได้ที่นี่

สูตรทำแกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู สูตรขายข้าวแกง

แกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู สูตรขายข้าวแกง

ตามคำเรียกร้องที่จะหาสูตร แกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู ที่จะทำขายข้าวแกง และสูตรนี้ สำหรับขาย 1 กิโลกรัม อะไรคือ 1 กิโลกรัม เรามาดูกัน

วัตถุดิบหลัก คือ หอยแครง 1 กก. และ ใบชะพลู 5 กำ ซื้อจากตลาดส่งจะได้เยอะมาก
สูตรแกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู
หอยแครง กำลังสดเลย น่ากิน

ใบชะพลู
ซอยใบชะพลู พอดีคำ

วัตถุดิบ
1) หอยแครง      1      กก. (ราคาประมาณ 100 บาท)
2) ใบชะพลู        2      กก.
3) เครื่องแกงเผ็ด   2   ขีด
4) เกลือ             2      ช้อนแกง
5) น้ำตาลทราย   2     ช้อนแกง
6) ซีอิ๊วขาว         2      ช้อนแกง
7) กะทิ               1      กก (หัวกะทิ และหางกะทิ)
8) พริกแดงใหญ่   5    ลูก

แกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู
แกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู




สูตรและวิธีทำ
ให้เด็ดใบชะพลู เอาก้านออกเหลือแต่ใบ และหันซอยเป็นชิ้นบางๆแช่น้ำพักไว้ก่อน นำหัวกะทิลงหม้อซักครึ่งถุง และตามด้วยเครื่องแกง และทำการคั่วกะทิกับเครื่องแกงให้แตกมัน หลังจากนั้น นำ หอยแครงใส่ลงหม้อ และทำการคั่ว จนหอยสุก จากนั้น นำใบชะพลู ใส่ลงไป ทำการคนให้เข้ากับน้ำแกงคั่ว จากนั้นใส่เครื่องปรุง และชิมให้ได้รสชาด และสุดท้าย หั่นพริกแดงใหญ่ ใส่ลงไปเพื่อเพิ่มสีสันของแกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู

คั่วหอยแครง ใบชะพลู จะมีรสชาดที่เค็มนำ และหวานมันตาม ใครได้ลิ้มลองเป็นต้องติดใจในรสชาดของแกงคั่วหอยแครง ใบชะพลู




ติดตามสูตรอาหาร ที่นี่

น้ำซาวข้าว มีประโยชน์ อย่าทิ้ง

เนื่องจากว่า หุงข้าวขายข้าวแกง แล้วมีน้ำซาวข้าวที่ต้องทิ้ง และมาคิดว่าจะใช้น้ำซาวข้าว น่าจะ มีประโยชน์ ใช้กับอะไรได้บ้าง และก็มียายท่านนึงแนะนำว่าให้นำน้ำซาวข้าวมาแช่น้ำล้างจาน ก็มานั่งนึก เออจริง เราใช้น้ำซาวข้าวล้างหน้าได้ ก็เป็นเหตุให้สามารถนำมันมาแช่จานข้าวได้นี่นา

น้ำซาวข้าวแช่จานกินข้าวเพื่ออะไร ก็มีคำตอบคือ เพื่อล้างความมันออกจากจานข้าวก่อน แล้วก็นำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจานอีกที แล้วจึงล้างด้วยน้ำสะอาด

ประโยชน์อีก ทางคือเพื่อประหยัด น้ำยาล้างจาน คือ ถ้าล้างด้วยน้ำยาล้างโดยไม่แช่น้ำซาวข้าวก่อน จะทำให้น้ำยาล้างจานมีสีขุ่นเร็วขึ้น ส่งผลให้ใช้ล้างจานได้จำนวนน้อย และก็ต้องเปลี่ยนน้ำยาล้างจานบ่อย เมื่อเปลี่ยนน้ำยาบ่อย น้ำยาล้างจานที่ซื้อมาก็จะหมดเร็ว แทนที่จะล้างได้มาก ตามที่โฆษณาก็ล้างได้น้อยชิ้น ต้องซื้อใหม่

ประโยชน์น้ำซาวข้าว กับ การดองผัก เราสามารถใช้น้ำซาวข้าวในการดองผักต่างๆ เช่น ผักกาดดอง ผักเซี่ยนดอง ต้นหอมดอง การดองแบบนี้จะไม่ใช้สารเร่งต่างๆ ทำให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภค รสชาดที่ได้จากการดองผักด้วยน้ำซาวข้าว จะมีความอร่อย และ กรอบ

สิ่งหนึ่งที่ได้จากผลผลิตของต้นข้าว และ ข้าวก็เป็นอาหารหลักของคนไทยมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวจ้าว ข้าวเหนียว เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ต้น จนถึง เมล็ดของข้าว และน้ำซาวข้าว เป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านที่บอกต่อกันมา และใช้มาช้านาน

ติดตาม บทความดีๆ ได้ที่นี่

วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

สูตรเด็ด ต้มยำขั้วตับหมู รสชาติที่ต้องลอง

ต้มยำขั้วตับหมู
ต้มยำขั้วตับหมู
สูตร ต้มยำขั้วตับหมู
ขั้วตับหมู ก็คือ เนื้อส่วนที่ยึดกับตับของหมู ส่วนมากนิยมนำมาต้มกับโจ๊ก ใครที่ทานโจ๊กมาก่อนก็พอจะนึกออก แต่ตอนนี้เราจะนำมาทำต้มยำขั้วตับ แปลกใหม่ ตามสถานที่เที่ยวน่าจะมีขาย

จากรูป ก็พอจะมองภาพออก ว่าแกงใช้ วัตถุดิบอะไรบ้าง เรามาเริ่มกันเลย

เครื่องปรุง

- ขั้วตับ                  1             กก.
- มะเขือเทศลูกใหญ่     5      ลูก
- น้ำตาลทราย              2      ช้อนแกง
- น้ำปลา                       2      ช้อนแกง
- เกลือ                          1      ช้อนแกง
- ต้นหอม, ผักชี             พอประมาณ
- มะขามเปียก               2      ก้อน
- หอมใหญ่                   5       หัว
- ผักชี                           5       ต้น
- ผักชีฝรั่ง                    5        ใบ

วิธีทำ
น้ำขั้วตับหมูมาล้าง หั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำ และพักไว้ก่อน นำมะขามเปียกแช่น้ำพักไว้ก่อน เอาน้ำใส่หม้อแกงและต้มจนเดือด ให้ใส่รากฝักชีลงไปในหม้อแกง หลังจากนั้น ใส่ขั้วตับหมูที่พักไว้ แล้วเติมเครื่องปรุง น้ำปลา เกลือ น้ำตาลทราย และ น้ำมะขามเปียก ชิมให้ได้รสชาติ เปรียว เค็ม หลังจากนั้น ให้ใส่ ต้นหอม ผักชี และ ผักชีฝรั่ง ซอยลงในหม้อแกง เป็นอันเสร็จ พร้อมขายข้าวแกง กินกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อย น่าลองเป็นอย่างมาก

เคล็ดลับการทำต้มยำให้อร่อยและถูกปาก คือ เมื่อชิมแล้ว รสชาติของต้มยำขั้วตับจะออก เปรี้ยวนำ เค็มตาม ถ้าใครชอบเผ็ด ก็ให้บุบพริกสดลงไป จะแซ่บน่าดู นี่เป็นสูตรข้าวแกงที่แปลกใหม่

ดูสูตรข้าวแกงที่เหลือ

วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การเลือกซื้อปลาแดดเดียว มาขายไม่ให้ขาดทุน

การเลือกซื้อปลาแดดเดียว มาขาย
บล็อค อาชีพ ขายข้าวแกง ได้ทดลองเลือกซื้อ ปลาแดดเดียว มาขาย และสามารถขายได้ คือ เป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับลูกค้า และการเลือกชนิดของปลาที่จะมาขายมันก็ยาก แต่ทาง อาชีพขายข้าวแกงจะมาแนะนำการเลือกปลามาขาย

ปลาแดดเดียว  ที่มีขายตามแผงทั่วไป เมื่อเดินดูราคา ก็ให้จำไว้ว่าราคาแต่ละร้านราคาเท่าไร แต่ถ้าร้านใหนไม่บอกราคา ก็ให้เดินผ่านได้เลย(หมายความว่าร้านนั้นไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า) และ สิ่งสำคัญก็คือ ราคาของปลาแดดเดียว จะมีหลายราคา มันจะขึ้นอยู่กับขนาดของปลา

การเลือกซื้อ ให้ทำการเลือกซื้อ ปลาที่มีขนาดเล็ก ราคาจะถูก ลองคิดดู ก็เราจะซื้อมาขาย เราจะไปซื้อปลาที่มีราคาแพงทำไมกันล่ะ  และ ลองซื้อซัก 1 - 2 กิโลกรัม ก็พอแล้ว และก็ให้นับจำนวนตัวปลาว่าได้กี่ตัว เพื่อที่จะมาคำนวนราคาขาย

วิธีการคำนวนราคาปลาที่จะขาย

               ปลา                1            กก.   ราคา  70    บาท
               นับปลาได้        10        ตัว
               70 / 10            =           7    (ตก แล้วตัวละ 7 บาท)

เวลาขาย เราต้องคิดค่า น้ำมัน ค่าแก๊ส ก็ขายตัวละ 15 บาท

จะเห็นว่าการเลือกซื้อปลาแดดเดียวที่จะมาขาย ก็มีวิธีการเลือกซื้อ การคิดราคาขาย ซึ่งทั้งนี้เป็นการฝึกให้ท่าน เป็นผู้ที่มีหลักการค้าการขาย เพื่อจะได้เป็นแนวทางในอาชีพขายข้าวแกง และอาชีพอื่นๆ ต่อไป

สถานที่ วันและเวลาที่ขายข้าวแกงได้ดีที่สุด

สถานที่ วันและเวลาที่ขายข้าวแกงได้ดีที่สุด


วันและเวลาที่ขายข้าวแกงได้ดีที่สุด เป็นตัวบ่งบอกว่าจะจัดการ เกี่ยวกับการทำอาหาร ในเรื่องของปริมาณที่จะทำ ซึ่งก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน และในบทความนี้จะมาแนะนำ วันและเวลาที่ขายข้าวแกงได้ดีที่สุด มีดังนี้

ปัจจัยสถานที่


ตั้งใกล้บริเวณห้างสรรพสินค้า ร้านข้าวแกงก็จะขายได้ในช่วงเช้า

ตั้งอยู่ริมเส้นทางหลวงหลัก ก็จะขายอาหารได้ในช่วงเช้า และเที่ยง ทั้งนี้การหาสถานที่จะต้องกะระยะเวลาของผู้คนที่จะหยุดสัญจร เพื่อที่จะหาของกิน ถ้า กะระยะได้ ก็จะเห็นเงินแน่นอน  เช่น คนที่เดินทางกลางคืน ผ่านมาถึงช่วงเช้า ประมาณ 8 นาฬิกา ท้องก็จะเริ่มหิว และหาร้านริมเส้นทางหลักกิน ตัวอย่าง ก็ เส้นทางล่องไต้ ก็จะมีร้านอาหารข้าวแกงแถวเพชรบุรี ซึ่งก็มีหลายร้าน

ตั้งอยู่ในโรงงานอุตสาหกรรม ใครที่ได้ขายข้าวแกงในโรงงาน ก็ถือว่าโชคดีมาก ที่จะได้เห็นเงิน และกำไรแน่นอน ทั้งนี้ก็เพราะ ส่วนมากโรงงานอุตสาหกรรม มักจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมงหมุนเวียนกันไป แต่ก็ต้องแลกมากับต้นทุนที่สูงขึ้น ต้องปฎิบัติตามกฎของโรงงานอย่างเคร่งครัด ก่อนจะเข้าไปขายอาหารในโรงงานได้ บางแห่งจะจัดให้มีการทดลอง ให้พนักงานชิมรสชาดก่อน และแสดงความคิดเห็นว่าผ่าน หรือไม่ผ่าน ถ้าผ่านได้ก็สบายแน่นอน แต่ต้องทนคนบ่นซักหน่อย เพราะคนที่กินข้าวแกงก็จะหน้าเดิม ดังนั้นเจ้าของร้านค้าต้องคิดเมนูอาหารใหม่ และหมุนเวียนอยู่เสมอ

ตั้งอยู่ในสถานที่ราชการ สามารถขายอาหารได้ตลอดวัน ทั้งนี้เพราะ มีผู้คนมาติดต่อสถานที่ราชการเกือบทุกช่วงเวลา ยิ่งถ้ามีการต่อแถวมาก ก็ยิ่งขายอาหารข้าวแกงได้มาก

ตั้งในสถานที่แหล่งท่องเที่ยว สามารถขายอาหารได้ตลอดวัน ทั้งนี้ก็เพราะ จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางหมุนเวียนกันมาเที่ยวตลอดทั้งวัน และถ้าสามารถติดต่อบริษัททัวร์ได้ก็จะมีโอกาสมากตาม

ตั้งขายในปั๊มน้ำมัน สามาถขายได้ตลอดวัน เนื่องจากมีนักเดินทาง ผ่านมาตลอด หยุดพัก เติมน้ำมัน และจะขายอาหารข้าวแกงได้มากก็ช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกราณต์ วันหยุดยาวติดต่อกัน

วันและเวลา


เวลาที่ขายข้าวแกงได้เรื่อยๆ ก็ เวลาเช้า และ เที่ยง ทั้งนี้ก็เพราะ ตอนเช้า และตอนเที่ยง ก็จะมีคนมาหาอาหารกิน และตอนเย็นก็จะขายได้น้อย

วันที่ขายอาหารได้น้อย คือ วันเสาร์ และ วันอาทิตย์ ทั้งนี้ก็เนื่องจาก เป็นวันหยุด และจะนอนตื่นสายกัน และส่วนมากจะกินอาหาร ข้าวแกงมื้อเดียว ถ้าร้ายข้าวแกงอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้า ก็จะขายไม่ได้เลยก็ว่าได้

จากที่กล่าวมา สถานที่ วันและเวลาที่ขายข้าวแกงได้ดีที่สุด สามารถนำมา ประกอบการตัดสินใจที่จะปรุง ปริมาณของอาหาร ข้าวแกง เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงต้นทุน และความเสี่ยงที่จะขาดทุนนั่นเอง

ถ้าบทความนี้อ่านแล้วมีประโยชน์ ก็ช่วย แชร์ด้วย  จ้า

วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

การเลือกใช้จานข้าว ช้อนส้อม สำหรับขายข้าวแกง

การเลือกใช้จานข้าว ช้อนส้อม สำหรับขายข้าวแกง


เคยมีคนบอกว่า ไปกินอาหารที่ร้านนั้น ร้านนี้ ......โอ้ โฮ.... จานข้าวมันใหญ่มากยังกับจานบิน แสดงว่า เออ มันน่าลอง และ ก็มีคนบ่นว่า ไปกินข้าวแกง ที่นั่น ที่นี่ จานข้าวนิดเดียว เวลาเขี่ยเศษอาหาร ก็เขี่ยยาก กินยาก ก็ไม่น่าลอง จะมาบอกการเลือกใช้จากข้าว สำหรับขายข้าวแกง เหมาะสมกับราคา ลูกค้าติดใจภาพลักษณ์

การเลือกจานข้าว


- เลือกใช้ จานเซรามิค เหตุผลก็เพราะ ความปลอดภัย ไม่มีสารเคมีออกมาตอนเจอความร้อน และ อีกอย่างที่สำคัญ ก็คือ ความรู้สึกของลูกค้าเมื่อเห็นแล้วก็ เออ ข้าวแกง อาหารร้านนี้น่ากิน ก็เพราะ เลือกใช้ จานเซรามิก มั่นใจในความปลอดภัย

- เลือกใช้จานที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่ม ความสวยงาม ความสมบูรณ์ ใช้เก็บเศษอาหารรอบข้างจาน มีพื้นที่ในการกินข้าว จะเห็นได้จากศูณย์อาหารตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็เลือกใช้จานข้าวแกงที่ใหญ่

การเลือกช้อนส้อม


- เลือกช้อนส้อมที่ไม่อ่อนมาก ไม่บาดปาก และ ณ ตอนนี้ ช้อนซ่อมก็มีขายทั่วไปตามร้านขายของทุกอย่าง 20 บาท หรือ ร้าน 15 บาททุกอย่าง โดยราคาก็สามารถสอบถามกันได้ หรือ ถ้าเลือกอย่างดี ราคาก็จะสูงพอควร

เหตุที่เลือก จานขายข้าวแกงใบใหญ่ ก็เพราะ ความสะดวกของลูกค้าที่กินข้าว สามารถมีพื้นที่วางเศษอาหาร และเวลา เขี่ยก็จะได้ไม่เลอะ หกตามโต๊ะอาหาร และเป็นภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้พบเห็น นั่นเอง

วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ข้อดี ข้อเสีย ขายอาหาร ขายข้าวแกง

ข้อดี ข้อเสีย ขายอาหาร ขายข้าวแกง

ที่ขึ้นหัวข้อ ข้อดี ข้อเสีย ขายอาหาร ขายข้าวแกง เรามา ตัดสินใจก่อนขายข้าวแกง ก็เพราะว่า เป็นอาชีพที่ต้องขายบริการ ด้วยมีผู้คน ลูกค้ามากหน้าหลายตามาซื้อข้าวแกง ดังนั้นจะต้องเป็นคนที่มีจิตใจที่รักในอาชีพนี้จริงๆ และ บล็อคจะมาแนะนำ มาเสนอแนวคิดหลังจากได้เปิดร้านข้าวแกง มาให้ได้เรียนรู้กัน ทั้งข้อดี ข้อเสีย และ แก้ไข

ข้อดี

มีรายได้ และเงินทุนหมุนเวียน
ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเงินซื้อกับข้าวภายในครอบครัว
ได้แนวคิดในการทำอาหาร หรือ ข้าวแกง
ได้ออกกำลังกาย เพราะการประกอบอาหาร การเปิดร้าน การปิดร้าน การเสริฟอาหาร ทั้งหมด ล้ว

ข้อเสีย

ถ้าขายในสถานที่คนสัญจรน้อย ก็จะขายอาหารได้น้อย วิธแก้ คือ ต้องหาสถานที่ๆ เหมาะ

ต้องตื่นนอน ก่อนคนอื่น เพราะต้องตื่นมาประกอบอาหาร ทางแก้คือ พยายามนอนก่อนคนอื่น หรือ นอนก่อนเวลาปรกติ และร่างกายจะปรับสภาพไปเอง

ใช้เวลาเตรียมของนาน มีทางแก้ คือ ให้ทำการ เขียนเมนูอาหารว่าจะทำอะไร ก่อนหลัง ของที่ทำง่าย ก็ทำก่อน ของที่ทำยาก ก็ต้องทำล่วงหน้า เช่น แกงพะโล้ ก็สามารถเตรียมการไว้ล่วงหน้าได้เลยครับ

ใช้เวลาเก็บของนาน สามารถแก้ได้ ด้วยการเตรียมล้างอุปกรณ์อาหารต่างๆ ก่อนที่จะปิดร้าน เช่น กะทะ หม้อ ถาดใส่อาหารที่ขายหมดแล้ว ของจำพวกนี้ก็สามารถล้างและเก็บได้เลย

ไม่มีเวลาพักผ่อน หรือพักผ่อนน้อย เพราะต้องขายทุกวัน ถ้าหยุดขาย รายได้ก็หยุด แต่ก็ไม่กระทบมากเท่าไรสำหรับร้านที่ขายดี

ทุกอาชีพมีข้อดี ข้อเสียหมด แต่เราสามารถ ฝ่าอุปสรรค์ไปได้หรือไม่ เราจะเอาข้อเสียมาแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าไม่ทำก็จะไม่มีประสบการณ์ในการเรียนรู้ และรับสิ่งใหม่ อาชีพขายข้าวแกง ก็เป็นอาชีพที่น่ามอง ยังงัยทุกคนก็ต้องกินอาหาร ประกอบกับสมัยนี้ผู้คนต้องการความรวดเร็วในการใช้ชีวิตประจำวัน ถ้าอาหาร ข้าวแกง รสชาดอร่อย ถูกปากผู้ได้ชิมลิ้มรส พวกเค้าก็พร้อมยอมจ่าย ถึงแม้สถานที่ขายจะอยู่ในซอกในหลืบก็ตาม

บทความของ http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/ ห้ามลอกเลียนแบบ

เคล็ดลับ หุงข้าวไม่ให้เสีย ไม่ให้ข้าวบูด เฉลย

เคล็ดลับ หุงข้าวไม่ให้เสีย

ขายข้าวแกง อันดับแรกที่จำเป็นมาก คือ การหุงข้าว จะทำยังงัยให้ข้าวที่เหลือจากการขายไม่ให้ข้าวเสีย ข้าวบูด สูตรข้าวแกง จะมาแนะนำการวิธีการหุงข้าวไม่ให้เสีย และสามารถนำมาอุ่นในวันถัดไปได้ เรามาดูเคล็ดลับกัน


เนื่องจาก บล็อค สูตรข้าวแกงได้ทดลองหุงข้าวในวันแรกตั้งแต่เช้า ข้าวสุก หอม น่ากินมาก แต่พอขายได้ไปประมาณ เวลาเที่ยง ก็ปรากฎว่า ข้าวเริ่มมีกลิ่นบูด ลักษณเมล็ดข้าวก็เริ่มแฉะ และ รสชาดก็กินไม่อร่อยเลย ปรากฏว่าวันนั้น ต้องทิ้งข้าวไปเกือบครึ่งหมอ และก็ ต้องไปซื้อข้าวปล่าวถุงมาขาย ซึ่งเป็นการเสียเวลา และ เป็นการเพิ่มต้นทุนอีก (อุปสรรคของวันแรก) ก็เลยลองหาวิธีการที่จะ หุงข้าวไม่ให้เสีย


ก็เลยมาเจอยายท่านนึง แกบอกว่า ให้ลองใส่น้ำส้มสายชูกลั่นลงในหม้อข้าวไปประมาณซัก 1 ช้อนแกง ก็เลยทำตามที่แกบอก และผลปรากฎว่า โอ้ ข้าวมันออกมาสวย เมล็ดข้าวสีขาวนวล และก็ดูเวลาตอนเที่ยงก็ปรากฎว่า ข้าวไม่เสีย ไม่บูด หลังจากวันนั้น ก็ใช้วิธการนี้มาโดยตลอด

วิธีการหุงข้าวไม่ให้เสีย

1) ล้างหม้อ ล้างฝา ให้สะอาด พร้อมตากแดด
2) ซาวข้าว และ เอาน้ำซาว
3) เอาข้าวใส่น้ำ และวัดระดับน้ำให้พอเหมาะ คือข้าวไม่ดิบ ไม่แฉะ
4) หลังจากนั้น ให้นำ น้ำส้มสายชูกลั่น ใส่ลงไป รอข้าวสุก เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ

จุดสำคัญของการ หุงข้าวไม่ให้เสีย คือ ใช้น้ำส้มสายชู มาใส่นั่นเอง สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านห้างสรรพสินค้าต่างๆ ราคาก็สำรวจเองนะ ไม่แพง

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

เลือกทำเลขายของ สถานที่เปิดร้านข้าวแกง สำคัญใฉน

ทำเลขายของ สถานที่เปิดร้านข้าวแกง สำคัญใฉน

มีประโยคที่บอกว่า จะขายของ ก็มี อยู่ 2 อย่าง คือ "ไปหาคนซื้อ" หรือ "คนซื้อมาหา" การเลือกทำเล ขายอาหาร ก็เป็นปัจจัยหลัก และ สำคัญมาก ถึงมากที่สุด จะขายได้ หรือ ขายไม่ได้ ก็ขึ้นกับส่วนนี้ การเลือกทำเลขายข้าวแกง จะต้องคำนึงถึง จำนวนคนที่จะมากิน อาหาร ข้าวแกง บทความ สูตรข้าวแกง นี้จะกล่าวถึง การเลือกทำเลขายข้าวแกง ที่ได้มาจากประสบการณ์

ทำเลขายของ สำหรับเปิดร้านขายข้าวแกง

1) ตามตลาดนัด จะเป็นลักษณะ "คนซื้อมาหา" ตลาดนัดเป็นแหล่งรวม สินค้า ของกินมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผลไม้ อาหาร เสื้อผ้า ข้าวแกง แกงถุง การที่เราจะเลือกขายข้าวแกง ตามตลาดนัด จะต้องมียานพาหนะที่จะขนย้ายอุปกรณ์ปรุงอาหาร เครื่องปรุง น้ำ เตาหุงต้ม ถังแก๊ส ต่างๆ นาๆ ถ้าตลาดนัดมีคนเยอะ ก็มีโอกาสที่จะขายข้าวแกงได้มากตาม ความเสี่ยงของตลาดนัดคือ ถ้าเข้าสู่ฤดูฝน ก็มีความเสี่ยงมาก ที่จะขายได้น้อย ทั้งนี้ก็เพราะเมื่อ ฝนตกจะทำให้ผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อข้าว ปลา อาหารน้อยลง คือ ในบ้านมีอะไรกินก็กินอันนั้นไปก่อน

2) รถมอเตอไซค์พ่วง จะเป็นลักษณะ "ไปหาคนซื้อ" สูตรข้าวแกง ได้ทำการสำรวจวางแผน หลายสถานที่ๆ จะขายข้าวแกง และก็มาพบว่า การขายข้าวแกงด้วยรถมอเตอไซค์พ่วง ก็เป็นอีกแนวทางที่มีใช้กันอยู่ การใช้วิธีการขายอย่างนี้ ก็เป็นการทำอาหารที่บ้านเสร็จเรียบร้อยเลย แล้วก็นำอาหารที่ทำเสร็จไปขายด้วย รถมอเตอไซค์พ่วง ข้อดีก็คือ ไม่ต้องจ่ายค่าสถานที่ ข้าวแกงหมดเร็ว เข้าถึงลูกค้า ข้อเสีย ก็คือต้องจ่ายค่าน้ำมันรถ




Advertisment



3) ขายเส้นทางหลัก หรือ ริมถนนที่มีผู้คนสัญจรไปมา รถผ่านเยอะ ลักษนะ "ไปหาคนซื้อ" ขอแนะนำว่า เส้นทางหลักนี้จะเป็น เส้นทางหลวง เช่น เส้นทาง สายเหนือ สายใต้ สายตะวันออก สายตะวันตก อาจจะแตกแยกไปอีก ขอให้เลือกว่า สถานที่นั้นต้องมีรถผ่านเยอะ ทำเลขายของลักษณะนี้ จะเป็นทำเลขายของที่ดีที่สุด สำหรับขายข้าวแกง เพราะ ผู้คนที่มากินข้าวแกงจะไม่ซ้ำหน้า สามารถทำอาหารเดิมๆ ได้ และ ถ้าเป็นหน้าเทศกาลด้วยแล้ว ก็จะขายดีมาก

4) สถานที่บ้านของตัวเอง จะเป็นลักษณะ "คนซื้อมาหา" การขายข้าวแกงแบบนี้ ผู้ที่จะมาซื้อกินจะเป็นผูซื้อหน้าเดิม และนานๆ จะมีผู้ซื้อหน้าใหม่ ดังนั้น จะต้องคิดเมนูอาหาร ข้าวแกงที่แปลกใหม่ อยู่เสมอ ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะลักษณะการกินของคนไทย จะไม่กินอาหารที่ซ้ำๆ กันทุกวัน

5) เขตชุมชน จะเป็นลักษณะ "คนซื้อมาหา" และจะคล้ายกับ ข้อ 4 ดังนั้นจะต้องหาเมนูอาหารที่ทำให้ผู้ซื้อ ผู้กินไม่จำเจ จนเกินไป





ทำเลขายของ สำคัญมาก ตามที่กล่าวมา ถือว่าเป็นทำเลที่ดีหมด จุดสำคัญจะต้องแน่ใจว่ามีจำนวนคนมากน้อยแค่ใหน และจะนำมาสู่การทำอาหารให้ได้ในปริมาณที่พอเหมาะ คือ ไม่ขาดทุนนั่นเอง

แนะนำ สำรวจตลาดผัก ตลาดค้าส่งผัก ก่อนขายข้าวแกง

สำรวจตลาดผัก ตลาดค้าส่งผัก ก่อนขายข้าวแกง


บทความ สูตรข้าวแกง จากที่คิด วางแผน และ แนะนำ การหาซื้อวัตถุดิบที่จะนำมาประกอบอาหาร เช่น ผัก ถ้าเราจะไปซื้อตามร้านค้าปลีก มักจะมีราคาแพง ส่งผลให้เพิ่มต้นทุน ดังนั้น จากประสบการณ์ จะแนะนำการเดินสำรวจแหล่งจำหน่ายผัก คือ ตลาดค้าส่ง นั่นเอง บทความนี้ จะแนะนำวิธีการเลือกซื้อ ผัก หรือ วัตถุดิบ ที่จะประกอบอาหารได้ในราคาที่ ถูก และ การเปรียบเทียบราคา ก่อนที่จะจ่ายเงิน

เดินตลาด


หลักการณ์เดินตลาดค้าส่ง เพื่อจะซื้อผัก


วางแผนซื้อผัก

สูตรข้าวแกง เปิดร้าน ได้ทำการวางแผนว่า จะทำยังงัยให้ได้วัตถุดิบ ที่จะประกอบอาหาร เช่น ผักสด ต่างๆ ผักชี แตงกวา อะไรประมาณนี้ ที่ได้ราคาที่ถูกที่สุด ที่เราต้องเลือกก็เพราะว่า ถ้าเราซื้อของ เช่น ผักชี 1 กิโลกรัม เราซื้อในราคาส่ง ก็จะถูกลง และใช้ประกอบอาหารได้หลายครั้ง แต่ถ้าเราซื้อที่ร้านค้าปลีก ก็จะมีราคาแพง และใช้ประกอบอาหารได้ครั้งเดียว

เดินตลาดค้าส่งผัก สำรวจราคา

เป็นอีกเหตุผลที่ สูตรข้าวแกง ได้เจอมากับตัวเอง ก็คือเดินซื้อผักไม่รอบบริเวณ ตลาดค้าส่ง จึงได้ซื้อผักได้ในราคาที่แพง ดังนั้นขอแนะนำว่าให้เดินดูผัก และถามราคาว่าเท่าไร และอย่าเพิ่งซื้อ ให้ทำการเดินดูผักชนิดเดียวกันที่ร้านใกล้เคียงกัน และเปรียบเทียบราคา ว่าต่างกัน หรือเท่ากัน ทำแบบนี้ประมาณ 3 - 4 ร้าน ก็จะได้ร้าน และราคาผักที่พอใจแน่นอน

เดินดูป้ายบอกราคา

ราคา ผักกาดขาว

ป้าย บอกราคา ผัก

สูตรข้าวแกง เปิดร้าน ชอบเดินดู ร้านที่ปิดป้ายบอกราคาของผักมาก ก็เพราะว่า ร้านเหล่านี้ได้ทำการลดราคาของผักแล้ว และเมื่อจะซื้อเราก็สามารถที่จะขอลดราคาได้อีก







ซื้อผักราคาถูก

การที่จะซื้อผักได้ในราคาที่ถูก ก็มีหลายปัจจัยด้วยกัน ดังนั้น จะแนะนำ การซื้อผักได้ในราคาที่ถูก เช่น
- ตลาดใกล้จะวาย
- ต่อรองราคา
- ซื้อที่มีป้ายบอกราคา

โดยทั่วไปแล้วการ สำรวจตลาดผัก ก่อนที่จะขายข้าวแกง จะเป็นการ เตรียมความพร้อมของเจ้าของร้านข้าวแกง ว่าจะ มีวิธีการซื้อผักยังงัย ให้ได้ในราคาที่ต่ำ ดังนั้นแนวทางที่แนะนำ สามารถนำไปปฎิบัติได้
จริง และถ้านำไปปฎิบัติ แล้ว ก็อาจจะมี เคล็ดลับในการซื้อผัก และวัตถุดิบที่จะประกอบอาหารเพิ่มเติมจากนี้ก็เป็นได้ การทำอาหาร และขายข้าวแกงนั้น ต้องใช้ประสบการณ์ของตัวเอง จึงจะรู้ว่า ต้องทำขั้นตอนใหน ก่อน หลัง

ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ สูตรข้าวแกง เปิดร้าน ได้ ที่นี่

รูป และ บทความโดย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

คิดวางแผนก่อน เปิดร้านขายข้าวแกง

คิดวางแผนก่อน เปิดร้านขายข้าวแกง

การที่จะทำงานอะไรก็แล้วแต่ที่จะให้บรรลุตามเป้าหมายที่เราวางไว้ จะต้องวางแผนก่อนเสมอ ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นแนวทาง หรือชี้นำเพื่อไปยังจุดหมายนั่นเอง การ เปิดร้านขายข้าวแกง ก็ต้องวางแผนเหมือนกัน ก็นำปัญหา แนวทางมาคิด มาแตกแยก ทั้งนี้ บางคนอาจจะคิดว่า แค่เปิดร้านขายข้าวแกง จะต้องทำถึงขนาดนี้เลย หรือ ก็จะบอกว่า การวางแผน การคิด ก็เพื่อที่จะให้ผิดพลาดน้อยสุด ขาดทุนน้อยสุด ซื้อของถูกสุด ประหยัดรายจ่ายน้อยสุด อะไรประมาณนี้ บทความ นี้เกี่ยวกับ การวางแผน เปิดร้านขายข้าวแกง

ตามประสบการณ์ ของ บล็อค สูตรข้าวแกง เปิดร้านขาย ก็ไม่มีการวางแผนเยอะแยะอะไรมากมาย ก็ได้คิดไปทำไป แต่เนื่องจากว่าได้ตัดสินใจที่จะบอกแก่ผู้สนใจ ที่จะขายข้าวแกง ก็เลยจะเรียบเรียงให้ได้ติดตามกัน และน่าจะเป็นประโยชน์ แก่ผู้สนใจ

แนวทางในการเริ่มต้นขายข้าวแกง เป็นเพียงหัวข้อเริ่มต้น

1) ก่อนวางแผนเราต้องตัดความกลัวออกไปก่อน เช่น กลัวว่าจะขายได้ หรือขายไม่ได้ รสชาด ของข้าวแกง จะถูกปากหรือเปล่า

2) หาสถานที่ขาย ต้องดูก่อนว่าจะขายที่ใหน ทำเลที่จะขาย ต้องดูให้ดี

3) หาซื้อ วัตถดิบที่จะประกอบอาหาร ข้าวแกง ที่ใหน เช่น ตลาดสด ตลาดค้าส่ง ตลาดค้าปลีก สามารถไปซื้อได้ทุกวันหรือไม่ จะทำให้ได้อาหารที่สดอยู่เสมอ ถ้าไม่สามารถซื้อได้ทุกวัน ก็ควรจะมีวิธีการเก็บที่ดี เช่นตู้เย็น ลังน้ำแข็ง ตู้แช่อาหาร ทั้งนี้ก็แล้วแต่กำลังเงินที่ต้องจ่าย

4) สามารถ หาอุปกรณ์ ที่มีอยู่ในบ้าน นำมาใช้ได้หรือไม่ เช่น จาน ช้อน ซ่อม ถ้วย แก้วน้ำ กะละมัง เตาหุงต้ม แก๊ส หม้อหุงข้าว ทั้งนี้เพื่อประหยัดค้าใช้จ่าย ถ้าใครมีครบ ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากโข

5) จะทำกับข้าวอะไรขายดี เป็นปัญหาในการเปิดร้านขายข้าวแกงของวันแรก ก็อาจจะมีการถกเถียงกันบ้าง ก็จะต้องหาอะไรที่มันลงตัวให้ได้ ลองคิดดู ลองเดินดูตลาดที่เค้าทำขาย ว่าเค้าขายอะไรกัน

6) ใครเป็นคนทำอาหาร ปรุงอาหาร เป็นหัวใจสำคัญ สำหรับ สูตรข้าวแกง ก็มีแม่ครัวอยู่แล้ว และก็ทำอาหารอร่อยด้วย แต่ผู้สนใจเปิดร้าน หรือหาข้อมูลที่จะเปิดร้านขายข้าวแกง ก็น่าจะมีตัวเลือกในใจอยู่แล้ว เช่น จ้างแม่ครัว

7) จะทำอาหาร ข้าวแกงกี่อย่าง ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะไม่ต้องขาดทุนมาก และได้กำไรมาก ต้องดูว่า สถานที่ จำนวนคนที่จะซื้อข้าวแกง มีมากน้อยแค่ใหน

แนวทางในการวางแผน เปิดร้านขายข้าวแกง ดังที่กล่าวข้างต้นเป็นเพียงแนวทางเบื้องต้นที่ บล็อคสูตรข้าวแกง ได้ประสบมา และก็จะลงลึกในรายละเอียดต่อไป ท่านใดที่ ได้อ่านแนวทางนี้ ก็ลองไปคิดดูกันก่อน เผื่อจะมีแนวคิดที่แหวกแนว หรือ แนวทางเพิ่มเติม ก่อนที่จะเปิดร้านขายข้าวแกง

อาชีพเสริม เคล็ดลับ สูตรทำข้าวแกงขาย ง่ายๆ

หลายคนมองหาอาชีพเสริม แล้วจะทำอะไรดี คนเราต้องกินต้องใช้ นี่ละ เป็นอะไรที่ใกล้ตัวที่สุด คือ ทำข้าวแกง ขาย ก็แล้วกัน แล้วจะเริ่มจากตรงใหน ก็เป็นคำถามที่ต้องหาคำตอบ และเป็นอะไรที่คิดไม่ออก สำหรับคนที่ไม่เคยทำ ทำแล้วจะขายได้หรือเปล่า บทความสูตรข้าวแกง แรกของ สูตรข้าวแกง ขาย ก็จะมาแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นทำ คือเริ่มจาก ศูนย์ ก็ละกัน

สูตรข้าวแกง เปิดร้าน ก่อนหน้าจะเปิดบล็อค ก็ได้ทำการเปิดร้านขายข้าวแกง สถานที่เล็ก มาก ก็แค่มี โต๊ะประมาณ 3 ตัว ก็ขายไปได้บ้าง คือ ประมาณว่า วันนี้ได้กำไร พรุ่งนี้ไม่ได้กำไร แต่ก็พออยู่ได้ ก็บอกได้แค่นี้ แต่จะมี เคล็ดลับที่จะบอก ผู้ที่สนใจก็ติดตามอ่านได้ใน บล็อคนี้ สูตรข้าวแกง สำหรับเปิดร้าน หรือ จะทำข้าวแกงถุงขายก็ได้ ไม่ว่ากัน

บทความ นี้เป็นบทความแรกของ สูตรข้าวแกง หรือที่เรียกแบบ ติดปากอีกอย่างคือ สูตรข้าวราดแกง ก็แล้วแต่จะเรียกกัน ส่วน แอดมินเรียก สูตรข้าวแกง ก็ง่ายดี เป็นการย่อคำที่เข้าใจง่าย

ถ้าอยากรู้ว่าจะทำข้าวแกง ก็ติดตาม สูตรข้าวแกง ได้ที่นี่ และ คุณจะสามารถทำข้าวแกงขายได้แน่นอน ขนาดสถานที่ของ แอดมิน ยังอยู่ห่างใกล แต่ก็ขายได้แบบ พออยู่พอกิน อยู่อย่างพอเพียง (ขอใช้ คำของในหลวงท่าน ขอจงทรงพระเจริญ)

ติดตามข่าวสาร กิน ชิม ข้าวแกงได้ที่นี่

บทความโดย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/