กล้วยแขก (Kluay khaek) ของว่างทานเล่นที่ยังนิยมกินตลอดกาล

กล้วยแขก (Kluay khaek) ของว่างทานเล่นที่ยังนิยมกินตลอดกาล

กล้วยแขก (Kluay khaek)

กล้วยแขก แต่เป็นขนมไทย เป็นของว่างทานเล่นที่นิยมกินตลอดกาลจริงๆ หลังจากทานข้าวเที่ยงมักนิยมกินกล้วยแขกกัน ถ้าร้านอาหารใหนมีกล้วยแขกขายยิ่งขายดี แต่ต้องกรอบอร่อยนะ ก่อนหน้านี้ก็เห็นมีกล้วยแขกเฟรนไซส์ขายกันได้ซักพักแต่ก็สู่กล้วยแขกแบบธรรมดาไม่ได้ ไม่ว่าจะผ่านวันเวลามากี่ยุคสมัย กล้วยแขกก็ยังเป็นขนมกินเล่นตลอดกาล

Aerk Food เคยทำกล้วยแขกขายนะ ก็เป็นสูตรที่ดูจาก Youtube นี่ละดูหลายๆ สูตร การเลือกกล้วยที่จะทอดมันสำคัญมาก เมื่อทอดออกมาแล้วจะฝาด หรือไม่ฝาด หวานหรือไม่หวาน ก็อยู่ที่การเลือกกล้วย ส่วนการทอดแป้งจะกรอบหรือไม่กรอบก็มีเคล็ดลับกัน ไม่มีใครเขาค่อยบอก แต่ที่แน่ๆ จะให้แป้งกรอบ ต้องมีน้ำปูนใส และน้ำเย็นที่เป็นส่วนผสมของแป้ง

Advertisement

แนะนำอีกนิด แหล่งขายกล้วยแขกที่ขายดี คือ ท่ารถขึ้นลงโดยสาร หน้าธนาคาร หน้ามหาลัย หน้าหมู่บ้าน  ไม่เคยเห็นกล้วยแขกขายตลาดนัดเย็น

ช่วงเวลาของการกินกล้วยแขกที่ดีที่สุด คือ ตอนเที่ยงหลังกินข้าวเที่ยว นะ กินกล้วยแขกกับกาแฟ ส่วนมากซื้อกล้วยแขกไปกินที่ออฟฟิสที่ทำงาน

แหล่งซื้อกล้วยน้ำว้า ถ้าเป็นตลาดชุมชนก็รับซื้อตามหมู่บ้าน ให้ตระเวนดูว่าบ้านใหนมีกล้วยขายบ้านก็ติดต่อเลย ถ้าเป็นตลาดใหญ่ประจำจังหวัดก็ให้ไปซื้อแบบเหมาเข่ง ราคาก็จะได้ถูกกว่า

เรื่องเล่ากับ ครัวไทยโบราณ,หม้อดินเผา,ครกตำข้าว จำลอง

ครัวไทยโบราณ หม้อดินเผา ครกตำข้าว จำลอง

Aerk Food ได้ไปงานเกษตรคลองหลวงเห็นครัวไทยโบราณจำลอง มีเครื่องครัวหม้อดินเผาหลายขนาดทำให้นึกถึงวัยเด็ก แต่ครัวไทยโบราณและหม้อดินเผาก็ยังมีให้เห็นอยู่นะ หม้อดินเผาก็ยังใช้อยู่นะ จากที่อยู่ในครัวก็ไปอยู่ร้านอาหารเป็นหม้อจิ้มจุ่มเพียงแต่จะมีขนาดเล็กกว่านั่นเอง ครัวไทยโบราณสะท้อนให้เห็นวัฒนะธรรมไทยที่อันอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหารของไทยเราแต่โบราณมา

หม้อดินเผาโบราณปัจจุบันก็ยังใช้อยู่ เช่น นำไปต้มยาสมุนไพร ในรูปหม้อดินเผาได้จำลองให้เด็กและชนรุ่นใหม่ได้ดูว่า หม้อดินเผาใช้ทำอะไรได้บ้าง ขนาดของหม้อต่างๆ

หม้อดินเผา

ครกตำข้าวทุกบ้านต้องมีเอาไว้ตำข้าว สมัยโบราณคนไทยปลูกข้าวไร่ ข้าวนากันทุกบ้านและก็จะมีครกตำข้าวกันทุกครัวเรือน

ครกตำข้าว

ครัวไทยโบราณนอกบ้าน จำลอง ครัวโบราณจริงต้องมุงจาก สมัยนี้ก็ยังหาได้อยู่ ครัวไทยโบารณนอกบ้านเป็นครัวเปิด ทำอาหารอากาศถ่ายเทได้สะดวก ยิ่งมีควันจากไม้ฟืนก็จะทำให้หลังคาจากมีความคงทนไม่มีมอดไม่มีปลวกกินไม้ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ

ครัวไทยโบราณ

Advertisement

การเลือกหยวกกล้วยที่จะนำมาแกงให้อร่อย

การเลือกหยวกกล้วยที่จะนำมาแกงให้อร่อย

หยวกกล้วย สามารถทำกับข้าวได้หลายอย่าง เช่น แกงส้มหยวกกล้วย แกงกะทิ ห่อหมก ลวกกะทิกินกับน้ำพริก แต่ถ้าหยวกกล้วยแก่ก็จะทำให้คนกินเคี้ยวนานกว่าจะแหลก เรามีเคล็ดลับในการเลือกหยวกกล้วยแกงให้อร่อย กรอบ นิ่ม อันดับแรกเน้นว่าต้องหาต้นกล้วยน้ำว้าแถวบ้านนะ อย่าซื้อตามตลาดนะ ต้องหาตัดเอง ให้เลือกต้นกล้วยที่แทงหน่อ ต้นเด็ก ซึ่งเราจะเห็นว่ากอกล้วยจะมีต้นใหญ่และต้นเล็ก ให้เลือกต้นเล็ก ถึงปานกลาง จากนั้นก็ตัดที่โคนกล้วย แล้วให้ลอกเปลือกกล้วยให้จนถึงแกนกล้วย หรือเห็นหยวกกล้วย แล้วให้ใช้มือจับตรงกลางของหยวกกล้วยที่ยาวๆ นั้นละ ถ้าหยวกกล้วยแก่เราจะสังเกตุได้ว่าแกนหยวกกล้วยที่จับมันจะแข็งๆ แต่ถ้าหยวกกล้วยอ่อนเราจะเห็นว่าปลายหยวกกล้วยทั้ง 2 ด้านจะห้อยลงพื้นนี่ละที่เราต้องการเอาไปแกง เพราะหยวกกล้วยอ่อนถ้าได้แกงแล้วจะกรอบ นิ่ม ไม่แข็งกระด้าง และจะกินอร่อยมากๆ ต้องลองเลย

Advertisement

น้ำพริกระกำ

น้ำพริกระกำ

แม้ว่าจะมีหลายน้ำพริก แต่น้ำพริกระกำใช่ว่าจะหากินได้ง่ายลองเดินไปตลาดแล้วถามว่ามีน้ำพริกระกำขายหรือไม่ คำตอบคือไม่มี อยากกินก็ต้องตำกินเอง เรื่องนี้นึกถึงวัยเด็กที่ได้กินน้ำพริกระกำฝีมือพ่อมันอร่อยจริงๆ หอมกลิ่นระกำ แตก็ไม่ได้ถามว่าว่าสูตรเป็นอย่างไรแต่ก็หาสูตรในโลกออนไลน์มาเก็บไว้

ระกำ เป็นผลไม้ที่มีรสหวานอมเปี้ยวเมื่อสุก แต่จะมีรสฝาดเมื่อเริ่มออกผลใหม่ๆ

รูป ระกำจาก มติชน

เครื่องปรุงน้ำพริก เพิ่ม-ลด ตามใจชอบ

• พริกขี้หนู   15  เม็ด
• กระเทียม   15  กลีบ
• กะปิ(เคย)  1   ชต.
• กุ้งแห้ง      2    ชต.
• เนื้อระกำฝาน  8-10    ผล
• น้ำตาลปีบ    2  ชต.
• น้ำปลา        2    ชต.

Advertisment

วิธีทำ

• โขลกกระเทียม พริกและกุ้งแห้งให้แหลกเข้ากัน จากนั้นตามด้วยกะปิ และตามด้วยระกำ ตำพอแหลกให้เข้ากัน
• ปรุงรสตามชอบ ถ้าไม่เปรี้ยวให้เติมมะนาวลงไป เสร็จแล้วก็กินกับผักสด ผักลวกได้

น้ำพริกถ้าได้กินตอนหิวข้าวนี่นะรับรองข้าวหลายจาน น้ำพริกระกำจะหอมกลิ่นระกำมากๆ เมื่อวัยเด็กระกำที่ขึ้นตามสวนก็จะมีอยู่ 2 - 3 กอนะ เวลาจะทำน้ำพริกก็ต้องรอให้ออกผลระกำก่อน คือ ใน 1 ปีก็จะได้กินน้ำพริกระกำครั้งนึง

ฟีดแบคดีๆ จากการแจกสูตรกล้วยปิ้ง น้ำจิ้มราดกล้วยปิ้ง

ฟีดแบคดีๆ จากการแจกสูตรกล้วยปิ้ง น้ำจิ้มราดกล้วยปิ้ง

หลังจากที่ลงคลิป  น้ำราดกล้วยปิ้ง ก็มีคนคอมเม้นท์ต่างๆ นาๆ แบบที่ว่าดีๆ วันนี้ก็เอามาให้ชมกันว่าฟีดแบค สูตรกล้วยปิ้ง น้ำจิ้มราดกล้วยปิ้งเป็นอย่างไรบ้าง

บางท่านก็เอาไปลองทำ ผลออกมาก็สูตรนี้อร่อย ขาดส่วนใดส่วนนึงไม่ได้

ท่านนี้นำสูตรน้ำจิ้มราดกล้วยปิ้งไปใช้แล้วได้ผล อร่อย

มีคำถามก็ตอบกันไป

น้ำจิ้มราดกล้วยปิ้ง ตอบคำถาม

ขอบคุณมากๆ สำหรับฟีดแบคดีๆ สำหรับน้ำจิ้มราดกล้วยปิ้ง

ขนมไทยยอดนิยมที่กินเป็นอาหารว่างที่เห็นแล้วต้องอยากกิน(ยอมอ้วนหนึ่งวัน)ค่อยลดก็ได้น้ำหนัก

ขนมไทยยอดนิยม-อาหารว่างที่เห็นแล้วต้องอยากกิน(ยอมอ้วนหนึ่งวัน)ค่อยลดก็ได้น้ำหนัก

#ขนมไทยยอดนิยม AerkFood เป็นคนนึงที่เห็นขนมไทยแล้วอยากกิน ส่วนมากก็จะกินเป็นอาหารว่างเช่นก่อนอาหาร-หลังอาหารหรือตอนเที่ยง หรือกินกับกาแฟ ทานได้หมดขนมหวานไทยก็ขายได้ตลอดเรื่อยมา การทำขนมไทยน่าจะยากสำหรับเราๆ แต่คนที่ทำเป็นอาชีพเขาทำได้ หลักสูตรการสอนทำขนมไทยก็มีอยู่เรื่อยๆ ขนมไทย ที่เรารู้จักและคุ้นเคยก็มีหลายอย่าง เช่น ขนมเม็ดขนุน บัวลอย ขนมครก ขนมชั้น เป็นต้น

ขนมไทยยอดนิยมที่กินเป็นอาหารว่าง

ขนมตาล สีสันน่าทานจะทานร้อนๆ หรือเย็นๆ ก็ได้ กลิ่นหอมจากลูกตาลโตนด สีเหลืองสวย

ขนมถ้วยเตยหอม หวานหวาน สีเขียวจากน้ำเตยหอม ราดหน้าด้วยน้ำกะทิ ออกหวานเค็ม

ขนมสอดไส้ ใส่กากมะพร้าวผัด กลิ่นหอมจากใบเตย ใบตอง

ขนมหม้อแกง จากไข่ไก่ หรือจากถั่วเหลือง หรือ เผือก

ข้าวต้มมัด รสชาดไทยๆ ที่ยังหากินได้ตามตลาดทั่วไป ออกหวานๆ จากใส้กล้วย

ข้าวเหนียวมะม่วง ของว่างยอดนิยม อ้วนก็ยอม

ขนมตะโก้

ขนมทองหยิบ ทองหยอด หวานๆ สีสันน่าทานมาก ยอมอ้วน

ขนมบัวลอย หวานหอมน้ำกะทิ ถ้าได้ไข่ไก่ด้วยก็จะดี

ขนมไทยยอดนิยม ก็ยังเป็นอาหารว่างของคนไทยอยู่ตลอดไป แม้ว่าจะมีคนทำน้อย แต่ก็ยังหาทานได้ตามตลาดทั่วไป

อยากกินหมูแดดเดียว ก็เลยหาวิธีทำมาเก็บไว้ก่อน

วิธีทำหมูแดดเดียว

วันนี้อยู่บ้านเห็นแดดดีหลังจากฝนตกติดกันหลายวันก็เลยอยากทำอะไรกินก็ไปค้นหาสูตรหมูแดดเดียวก็ไปเจอที่ Kapook เห็นวิธีการทำหมูแดดเดียวแต่ยังไม่ได้ทำแต่เอามาเขียนเก็บไว้ก่อน เวลาทำน้อย ปกติจะกินหมูทอดที่แข็งๆ เคี้ยวแล้วเจ็บเหงือก แต่สูตรนี้เห็นว่าเนื้อหมูนุ่ม กินกับข้าวเหนียวอร่อยพุง

ส่วนผสม หมูแดดเดียว

สันคอหมูหั่นเส้น
กระเทียม
รากผักชี
พริกไทย
เม็ดผักชี 2 ช้อน
เกลือ
ซอสปรุงรสฝาเขียว
น้ำตาลปี๊บ
รสดี 1/2 ช้อน

วิธีทำหมูแดดเดียว

ไปหาซื้อสันคอหมูก่อน เนื้อตรงสันคอจะนุ่ม เวลาทอดกินจะได้ไม่เจ็บเหงือก

หมูแดดเดียว

ตำกระเทียม รากผักชี และพริกไทย ใส่เม็ดผักชีคั่วลงไป เครื่องปรุงใช้เกลือ ซอสปรุงรสฝาเขียว น้ำตาลปี๊บ เหยาะรสดีครึ่งช้อน ผสมให้เข้ากันแล้วคลุก

หมูแดดเดียวตากแดด

 นำหมูแดดเดียวไปทอดเลย ทอดแล้วให้สเด็ดน้ำมันนะจะได้ไม่ต้องกินน้ำมันเข้าไปเพิ่มไขมัน

หมูแดดเดียว ทอดสุก

ทอดเสร็จแล้วก็ตักใส่จาน กินกับข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองอิ่ม จนต้องร้องขอแน่นอน 

หมูแดดเดียว ทอดสุก

หมูแดดเดียวทอดสุกสูตรนี้ต้องลองละ มันจะไม่พอนะถ้าได้ชิมก็ต้องเพิ่มหมูเป็นกิโลเลย หรือถ้าฝีมือเข้าขั้น ก็ทอดขายไปเลยให้รวยกันไปเลยนะ

ขอบคุณภาพจาก pantip.com

สูตร-วิธีทำเค้กลาวาชาเขียว Green Tea Lava Cake (ขนมจากชาเขียว)

วิธีทำเค้กลาวาชาเขียว Green Tea Lava Cake (ขนมจากชาเขียว)

CR:ภาพเค้กลาวาชาเขียวจาก wongnai

อยากกินเค้กลาวาชาเขียวก็ต้องลองสูตรนี้ลองทำกินดู เค้กลาวาชาเขียวชนิดนี้ส่วนใหญ่เป็นไวท์ช็อกโกแลตที่อบด้วยอุณหภูมิสูงและใช้เวลาในไม่นานในการอบเพื่อให้ได้รสชาเขียวลาวา และต้องทานทันที ไม่นั้นจะไม่เป็นลาวา เนื้อเค้กจะเริ่มเซตไม่ละลายเป็นลาวา แต่มีวิธีแก้คือ สามารถนำมาอุ่นใหม่ได้โดยนำเข้าเตาอบไมโครเวฟที่ความร้อนระดับกลางค่อนข้างสูง (ประมาณ 650 วัตต์) นาน 20 นาที เพียงเท่านี้เนื้อเค้กด้านในก็จะชุ่มฉ่ำคล้ายลาวา

ชาเขียวร้อน

อุปกรณ์

โมลด์เค้กขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 เซนติเมตร

ส่วนผสม

• แป้งสาลีเอนกประสงค์   17  กรัม
• ผงชาเขียว  5 กรัม
• ไวท์ช็อกโกแลตหั่นชิ้นเล็ก
• เนยสดชนิดจืด พักไว้ที่อุณหภูมิห้องพอให้นิ่ม  47 กรัม
• ไข่แดง (ไข่ไก่)   20 กรัม
• ไข่ไก่เบอร์ 2 พักไว้ที่อุณหภูมิห้องให้หายเย็น  1  ฟอง
• น้ำตาลไอซิ่ง  36  กรัม
• น้ำตาลไอซิ่งสำหรับโรยหน้า

วิธีทำเค้กลาวาชาเขียว

1. ร่อนแป้งกับผงชาเขียวเข้าด้วยกันในภาชนะผสมแล้วพักไว้
2. ตีไข่แดงและไข่ไก่ทั้งฟองด้วยตะกร้อมอพอให้เข้ากันแล้วพักไว้
3. ละลายไวท์ช็อกโกแลตกับเนยพร้อมกันด้วยไมโครเวฟ ความร้อนระดับกลางค่อนข้างสูง (ประมาณ 650 วัตต์) นาน 2 นาที นำออกมาคนให้ละลาย แล้วค่อยๆ เติมน้ำตาลไอซิ่งลงไปทีละน้อย คนจนเข้ากันดี
4. ค่อยๆ เติมส่วนผสมข้อ 1 ลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากัน ใส่ส่วนผสมข้อ 2 ลงไปทีละน้อย คนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่โมลด์เค้ก วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 190 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง
5. นำเข้าเตาอบ จากนั้นปรับอุณหภูมิลงเหลือ 170 องศาเซลเซียส อบนาน 10 นาที เสร็จแล้วยกออกจากเตา
6. จัดใส่จานให้สวยงาม โรยน้ำตาลไอซิ่งบางๆ ให้ทั่ว

ชาเขียวเย็น

          

ชาเขียวนั้นเป็นเมนูยอดฮิตตลอดกาล ผู้คนนิยมดื่มกันมากทั้งเป็นจากใบชา ชงจากใบชาร้อนๆ จนมาเป็นเครื่องดื่มเย็นชาเขียว และกลายมาเป็น ขนมชาเขียว
ขอบคุณข้อมูลสูตรและวิธีทำ เค้กลาวาชาเขียว จากหนังสือ ขนมหวานจากชาเขียว by Chef Gio

https://thaifoodrecipesmake.blogspot.com

เดินตลาดนัดตามหาจนม-อาหารตลาดนัดน่ากิน ช่วงวันหยุด

อาหารตลาดนัดน่ากิน

เกษตรคลองหลวง ปทุมธานี

ไม่ได้อัพบล็อคนานแล้ว ต่อจากนี้ก็จะมาอัพเรื่องราวเกี่ยวกับขนมและอาหารตลาดนัด วันนี้ได้ไปตลาดนัดเกษตรคลองหลวง ปทุมธานี ได้เวลาก็ออกเดินทางไปยังจุดหมายด้วยมอไซค์ วันนี้ก็ยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย กะว่าจะไปหาอาหารตลาดนัดกินให้อิ่มท้อง แต่วันนี้เจอว่าไม่มีการจัดตลาดนัดเกษตรพอเพียง แต่ก็ยังมีตลาดนัดเล็กๆ ที่จัดกันทุกเสาร์ อาทิตย์ ก็เลยได้รูปอาหารจากตลาดนัดมาให้ได้ชมกัน

เดินไปอย่างแรกเลยก็คืออยากดื่มกาแฟก่อน ก็ได้กาแฟสดเอสเพรสโซ อร่อย หอม

กาแฟสด

ถัดมาก็หิวอยากกินก๋วยเตี๋ยวหมูตลาดนัด ใครได้ชิมแล้วรับรองติดใจ ถ้าได้ชิมตอนดึกๆ นะรับรองต้องสั่งเพิ่ม

ก๋วยเตี๋ยวหมู

 เดินต่อไปก็เจอข้าวหลามครับ หลามกันสดๆเลย ไม่ได้ชิมนะ ได้แต่ถ่ายรูปนะครับ

ข้าวหลาม ตลาดนัด

เดินต่อมาก็เจอข้าวแกงตลาดนัด ข้าวราดแกงจานละ 30 บาท รับรองอร่อย มีที่นั่งกิน ใต้ร่มไม้

ข้าวแกง ตลาดนัด

ต่อไป ก็เป็นส้มตำ

ส้มตำ ตลาดนัด

เดินต่อไปก็เจอ ขนมจีนน้ำยาตลาดนัด เชิญกินกันได้ตามสบาย อร่อย มีผักให้กินเยอะ

ขนมจีนน้ำยาตลาดนัด

 ต่อไปก็เป็นขนมไทยๆ ข้าวเกรียบว่าวตลาดนัด

ข้าวเกรียบว่าวตลาดนัด

ต่อไปก็เป็นข้าวหมากตลาดนัด

ข้าวหมากตลาดนัด 

ต่อไปก็เป็น กล้วยแขกตลาดนัด รายนี้อร่อยมาก หวานเนื้อกล้วยแป้งกรอบ

กล้วยแขกตลาดนัด 

คอยติดตามอาหารตลาดนัดน่ากินนะครับ

สูตรการทำขนมต้ม 3 สี #หนุบหนึบหนับ สีน้ำอัญชัญ สีน้ำใบเตย สีน้ำกระเจี๊ยบ ทำกินทำขาย

#ขนมต้ม #หนุบหนึบหนับ สีน้ำอัญชัญ สีน้ำใบเตย สีน้ำกระเจียบ

ขนมต้ม 3 สี

สวัสดีทุกคน วันนี้มีสูตรและวิธีทำ ขนมต้ม 3 สี มาฝาก มี สีน้ำอัญชัญ สีน้ำใบเตย สีน้ำกระเจียบ สีสันชวนหิวมาแล้วจ้า เช้านี้กินขนมต้มหวานนุ่มกันหน่อยจ้า นำสูตร ขนมต้ม ขนมไทยเนื้อนุ่มๆ หากินยากสมัยนี้มาฝากกันจ่ะ สีสันสวยงาม สอดไส้มะพร้าวแสนอร่อย แถมยังคลุกเคล้าด้วยมะพร้าวอ่อนอีกด้วย ถ้าได้ทานแล้วล่ะก็เดี๊ยนบอกเลยว่าฟินสุดๆ ตามมาจดสูตรได้เลยจ๊ะ!!

วัตถุดิบและส่วนผสม

แป้งข้าวเหนียว 300 กรัม (แบ่งออกเป็นถ้วยละ 100 กรัม)
น้ำอัญชัญ 90 กรัม
น้ำใบเตย 90 กรัม
น้ำกระเจี๊ยบ 90 กรัม
น้ำตาลปี๊ป 1 ถ้วย
มะพร้าวทึนทึก 1 ลูก
เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำขนมต้ม

1) ทำใส้ขนมต้ม  ขูดมะพร้าวเตรียมไว้ จากนั้น ใส่น้ำตาลปี๊ปลงไปในกะทะ แล้วคนให้น้ำตาลละลาย จากนั้นก็นำมะพร้าวขูดลงไปผสมคนให้เข้ากันแล้วยกลงไปพักไว้

มะพร้าวขูด

ทำใส้ขนมต้ม

ใส่มะพร้าวขูดลงไป

ขนมต้ม-ใส่เกลือ

ขนมต้ม- คนให้เข้ากัน

2) ขนมต้ม วิธีทำแป้ง โดยให้ตั้นเอาน้ำจาก  น้ำอัญชัญ น้ำใบเตย น้ำกระเจี๊ยบ โดยเทแป้งข้าวเหนียวลงไปแล้วตามด้วยน้ำแต่ละสี และทำการนวดให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน สีที่ได้ตามรูป

แป้งข้าวเหนียว ทำขนมต้ม

แป้งจากน้ำกระเจี๊ยบ 

แป้งจากน้ำอัญชัญ

แป้งจากน้ำใบเตย

3) วิธีห่อขนมต้ม จากนำใส้ที่พักไว้ และแป้งแต่ละสีมาทำเป็นแผ่นบางแล้วก็ห่อกับใส้ แล้วก็ห่อให้หมดจะได้ตามรูป

ขนมต้ม 3 สี เตรียมห่อขนมต้ม

ขนมต้ม 3 สี ห่อเสร็จแล้ว

4) วิธีต้ม ขนมต้ม 3 สี ให้ตั้งน้ำให้เดือด แล้วนำขนมต้มที่ห่อเสร็จลงไปต้มประมาณ 10 นาทีให้ขนมต้มสุก ก็จะได้ขนมต้ม 3 สี เหนียวหนุบหนับแบบ จากนั้นตักขึ้นแล้วนำไปคลุกเคล้ากับมะพร้าวที่ขูดไว้เป็นอันเสร็จ แล้วจ้า ตามรูป

ขนมต้ม - ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำขนมต้มลงไปต้มให้สุก

ขนมต้ม - นำขนมต้มไปคลุกเคล้ากับมะพร่าวที่ขูดไว้เป็นอันเสร็จ

 เป็นอย่างไรกันบ้าง สูตรและวิธีการทำขนมต้ม 3 สี #หนุบหนึบหนับ สีน้ำอัญชัญ สีน้ำใบเตย สีน้ำกระเจี๊ยบ ทำกินทำขายก็ได้จ้า ขอบคณข้อมูลจากเพจหมูบิน

เด็จจริง สูตรหมูทอดนมสด สูตรนี้หมูนุ่ม หอม อร่อยมากรับรอง

สูตรหมูทอดนมสด สูตรนี้หมูนุ่ม หอม อร่อยมากรับรอง

ถ้ากำลังมองหาสูตรหมูหมักนุ่มๆ ไม่รู้จะไปหาที่ใหน อยากกินหมูทอดแต่ทำไม่เป็น อยากกินหมูทอดนุ่มๆ ไม่อยากออกไปซื้อ หรือคนชอบทำอาหารกินเอง ก็ต้องนี่เลยสูตรหมูทอดนมสด สูตรนี้อร่อยมากๆ วันนี่มาชวนทำเมนูหมูทอดนมสด นุ่ม อร่อย จะทานกับส้มตำ ข้าวเหนียว หรือข้าวสวยก็อร่อยเข้ากันค่ะ ลองทำทานดูนะค่ะ

ส่วนผสมหมูทอดนมสด

- หมูสันนอก 200 กรัม
- นมสดจืด 4 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทย ตามชอบ
- ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ้วดำหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ ตามคลิป

สูตรหมูทอดนมสด สูตรนี้ต้องลองทำนะรับรองอร่อยแน่นอน อิ่มจนต้องทำอีกให้เด็กกินเด็กชอบ

ขอบคุณคลิปจาก Youtube

AerkFood สูตรอาหาร

สูตรมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง แปรรูปเป็นก็เห็นช่องทางอาชีพ

สูตรมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง ถนอมอาหารให้กินได้นาน

ไปเจอข้อมูลการแปรรูปมะเขือเทศแล้วน่าสนใจ นั่นคือ มะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง ลองทำตามสูตรการแปรรูปมะเขือเทศอบแห้งด้านล่างนี้ดูจ้าเผื่อเป็นอีกแนวทางในการหาอาชีพเสริม เนื่องจากมีมะเขือเทศจำนวนมากที่ส่งออกจากสวนไปยังตลาดค้าส่งแล้วไปค้างหลายวันก็ทำให้มะเขือเทศเน่าได้ ดังนั้นราคาของมะเขือเทศก็จะลดลง เราต้องไปเลือกมะเขือเทศที่ลดราคาก็จะได้ซื้อในราคาถูก จากนั้นนำมาแปรรูปเป็นมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง

วัตถุดิบในการทำมะเขือเทศเชื่อมอบแห้ง

มะเขือเทศ 2 กิโล(เนื้อมะเขือเทศที่ล้างและเอาเม็ดออกแล้ว)
น้ำตาลทราย 6 ขีด
เกลือ 2 ช้อนชา
น้ำมะนาว 2 ชต.

วิธีทำ

1.เตรียมทำน้ำปูนใสไว้แช่มะเขือเทศ
2.นำมะเขือเทศสีแดงจัด มาล้างให้สะอาด ผ่าครึ่ง เอาเมล็ดออก
3.แช่ในน้ำปูนใส 1คืน(8-10ชม.)
4.นำขึ้นมาล้างน้ำสะอาด 2-3น้ำ แล้ววางทิ้งให้สะเด็ดน้ำ
5.ตั้งหม้อหรือกะทะ เทมะเขือเทศลงไปก่อน 1 กก.โรยตามด้วยน้ำตาลทราย 3ขีด จากนั้นเทมะเขือเทศลงไปอีก 1 กก. โรยตามด้วยน้ำตาลทราย 3ขีด ( ทำเป็น 2ชั้น)
6.เคี่ยวไฟอ่อน 1ชั่วโมงไม่เติมน้ำและไม่ต้องคน (มะเขือเทศจะคายน้ำออกมา น้ำตาลจะละลาย ไม่ไหม้)
7. เมื่อครบ 1 ชม.เติมเกลือ คนเล็กน้อย แล้วจึงเร่งไฟให้น้ำงวด
8.เมื่อน้ำงวด เติมมะนาว แล้วปิดไฟ พักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำเชื่อม
9.หากจะทำอบแห้ง ให้นำมาตากแดด 2 วัน (พลิก2ด้าน)
10.บรรจุใส่ภาชนะสำหรับขาย หรือเก็บไว้รับประทาน




ขอบคุณสูตรจาก เฟส

Aerkfoodสูตรอาหาร

#สูตรน้ำสลัดแบบบ้านๆ อาหารทำเอง น้ำสลัดผัก สลัดครีมวาซาบิ สลัดงาน้ำใส

#สูตรน้ำสลัดแบบบ้านๆ อาหารทำเอง

สลัดผัก

ใครที่อยากกินสลัดผักแต่ไม่มีน้ำสลัด หรือกำลังหาสูตรน้ำสลัดก็ลองสูตรนี้ดูจ้า ว่าแล้วก็ไปตลาดหาซื้อของมาทำน้ำสลัดกินกันเผื่อบางที่น้ำหนักอาจจะลดลงได้ ในที่นี้ก็มีสูตรน้ำสลัดหลายสูตร เช่น สูตรน้ำสลัดครีมวาซาบิ สูตรน้ำสลัด น้ำสลัดน้ำข้นสูตรพื้นฐาน #สูตรน้ำสลัดงาน้ำใส#สูตรน้ำสลัดฝักทอง #สูตรน้ำสลัดโยเกิร์ตสตอเบอรี่  เชิญเลือกสูตรน้ำสลัดได้ตามใจชอบจ้า 

1.น้ำสลัดน้ำข้นสูตรพื้นฐาน

ส่วนผสม
ไข่แดง 2 ฟอง
เกลือป่น 2 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 6 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันถั่วเหลือง 1 ถ้วย

#วิธีทำน้ำสลัด
นำส่วนผสมทุกชนิดยกเว้นน้ำมันพืชลงไปปั่นในเครื่องปั่น
ปั่นจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียวโดยใช้ความเร็วสูงสุด
เมื่อปั่นจนเนียนละเอียดแล้ว ลดความเร็วของเครื่องปั่นลงจากนั้นให้ใส่น้ำมันลงไปโดยใส่ทีละนิดๆ เพื่อไม่ให้น้ำมันกับครีมแยกชั้นกัน
เมื่อเทน้ำมันลงไปหมดแล้ว ตักใส่ชามรอให้ครีมเซ็ตตัว จากนั้นก็นำไปทำสลัดผักได้เลยค่ะ

#สูตรน้ำสลัดครีมวาซาบิ

#ส่วนผสม
แอปเปิิ้ลไซเดอร์ 400 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 400 กรัม
เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ลิตร
นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
วาซาบิสด 1 ช้อนโต๊ะ

#วิธีทำน้ำสลัด
ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำตาลทราย และเกลือในชามผสม คนจนน้ำตาลละลาย
ใส่น้ำมันมะกอกลงไปทีละน้อยๆ พร้อมกับคนอยู่ตลอดเวลา เพื่อไม่ให้น้ำมันกับส่วนผสมอื่นแยกชั้นกัน
นำส่วนผสมลงไปปั่น ปั่นจนเหนียว แล้วเติมนมข้นหวานและวาซาบิลงไปปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
เทใส่ชามหรือกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดแน่นหนาพอที่จะเก็บไว้ได้หลายวันในตู้เย็น

#สูตรน้ำสลัดโยเกิร์ตสตอเบอรี่

#ส่วนผสม
ไข่แดงของไข่ต้ม 1 ฟอง
เกลือ 1/2 ช้อนชา
โยเกิร์ตรสสตอเบอรี่ 1 แก้ว
น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันสลัด 1 ถ้วย

#วิธีทำน้ำสลัด
นำส่วนผสมทุกชนิดยกเว้นน้ำมันสลัดลงไปปั่นในเครื่องปั่น
จนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียวโดยใช้ความเร็วสูงสุด
เมื่อปั่นจนเนียนละเอียดแล้ว ลดความเร็วของเครื่องปั่นลงจากนั้นให้ใส่น้ำมันลงไปโดยใส่ทีละนิดๆ เพื่อไม่ให้น้ำมันกับครีมแยกชั้นกัน

#สูตรน้ำสลัดงาน้ำใส

#ส่วนผสม
น้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร
แอปเปิ้ลไซเดอร์ 150 มิลลิลิตร
น้ำตาลทราย 150 กรัม
เกลือ 1/4 ช้อนโต๊ะ
งาขาวคั่ว
วาซาบิ 1/4 ช้อนโต๊ะ
ซอสโชยุญี่ปุ่น 120 มิลลิลิตร
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ

#วิธีทำน้ำสลัด
เทน้ำเปล่า แอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำตาลทราย และเกลือ ลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง เคี่ยวไปเลยๆ จนน้ำเดือดเป็นฟองเล็กๆ และน้ำตาลละลาย
ปิดไฟ เทใส่ชาม ตั้งพักไว้ให้เย็น
ใส่งาขาว วาซาบิ ซอสโชยุ น้ำมันมะกอก และน้ำมันงา คนผสมให้เข้ากัน
เทใส่ขวดที่มีฝาปิดมิดชิดนำไปแช่ตู้เย็นก่อนนำมาใช้กับสลัด

#สูตรน้ำสลัดฝักทอง

#ส่วนผสม
แอปเปิ้ลไซเดอร์ 300 มล.
น้ำตาลทราย 300 กรัม
เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันมะกอก 1 ลิตร
ฟักทองญี่ปุ่นนึ่ง 500 กรัม
งาขาวและงาดำ

#วิธีทำน้ำสลัด
ผสมแอปเปิ้ลไซเดอร์ น้ำตาลทราย และเกลือในอ่างผสม คนผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน
นำส่วนผสมมาปั่นให้ละเอียดอีกครั้ง ใส่ฟักทองลงไปปั่นให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็เบาเครื่องปั่นเติมน้ำมันมะกอกลงไปทีละน้อยๆ ปิดเครื่องปั่น เทส่วนผสมลงในชาม
เทงาขาวและงาดำลงไป ใช้ช้อนคนให้งาผสมอยู่ทั่วน้ำสลัด ก่อนนำไปใช้ให้ใส่ภาชนะที่มีฝาปิดนำไปแช่ตู้เย็น เก็บไว้กินได้หลายวัน

ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก อาหารบ้านๆ ทำทานเอง