Pages

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด

ยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด


คราวนี้มาถึงอาหารยำที่ใครก็รู้จัก "ยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด" ด้วยรสชาติที่แซบ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว เป็นอะไรที่ใครได้ชิมลิ้มลองแล้วต้องยกนิ้ว ไม่ว่า จะกินเล่น กินกับข้าวสวย กินกับข้าวเหนียว ด้วยมีกุ้งสด ใครที่กิน ยำวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด ใครกินกุ้งได้เร็วก่อน คนนั้น ถือว่า กินไม่แบ่งเพื่อน อิอิอิ ทำนองใครมือยาวสาวได้สาวเอา บรรยายนาน มาดูสูตรยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด กันได้เลย

สูตรยําวุ้นเส้น
สูตรยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด


วัตถุดิบเครื่องปรุง


- กุ้งสด               1/2                 กก.
- หมูยอ               2                   แท่ง
- หมูบด              3                    ขีด
- วุ้นเส้น             2                    ห่อ
- พริกสด           2                     ขีด
- ต้นหอม ผักชี ซอย 1 มัด      5 บาท
- มะเขือเทศ          3                ลูก
- น้ำยำ   หาซื้อน้ำยำรสเด็ดตามท้องตลาด
- น้ำตาลทราย
- มะนาว
- น้ำปลา

วิธีทำ

- แกะกุ้งสด ผ่าหลังเอาเส้นดำออก พักไว้ก่อน
- ตั้งกะทะไฟร้อน นำหมูบดลง ตามด้วยน้ำขลุกขลิก ผัดหมูบดจนออกน้ำ
- ตามด้วยกุ้งสด ใส่ให้หมด ผัดจนกุ้งสุกแดง ตามด้วยวุ้นเส้น
- ช่วงนี้ให้ปิดไฟได้เลย เพราะช่วงปรุงเราจะไม่เปิดไฟ
- ตามด้วยเครื่องปรุง น้ำปลา น้ำยำ น้ำตาล น้ำมะนาว

สูตรยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด
สูตรยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด

เคล็ดลับ ให้บีบน้ำมะนาวหลังสุด เพราะจะได้ความหอมจากการบีบน้ำมะนาวลงไป

เสร็จ ยําวุ้นเส้น หมูยอ กุ้งสด พร้อมขาย ข้าวราดแกง พร้อมกิน กับแกล้มก็ดี กินเปล่าก็ดี ความแซ๊บ เผ็ด เปรี้ยว หวานนิด เป็นที่ถูกใจคอกินอาหารประเภทยำ

สูตรผัดพริกแกงไก่ หมู ใส่ถั่วฝักยาว เพิ่มความหอมด้วยใบโหระพา

สูตรผัดพริกแกงไก่ หมู ใส่ถั่วฝักยาว

และแล้วก็มาเป็นอาหารตามสั่ง แต่เอามาขายข้าวราดแกง ผัดพริกแกงไก่ หมู ใส่ถั่วฝักยาว ใครที่ชอบเผ็ดนำหวานนิดก็จะชอบ Admin ชอบกินมาก ต้องผัดให้ไฟแรงให้เนื้อไก่สุก ถ้าไก่ไม่สุกจะเหม็นคาวมาก ทีเด็กของผัดพริกแกงไก่ก็คือ มีถั่วฝักยาว ใบมะกรูด และเพิ่มความหอมด้วย ใบโหระพา รับรองติดใจ มาดูสูตรกัน

ผัดพริกแกง
ผัดพริกแกงหมู

เครื่องปรุง

- เนื้อไก้/ หมู                 1              กก.
- พริกแกง (กลาง หรือใต้)    2   ขีด
- เกลือ
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า
- น้ำตาลทราย          1             ช้อนแกง
- ซ้อสหอยนางรม     1             ช้อนแกง
- น้ำมันพืช
- ถั่วฝักยาว              1            กก.
- หอมหัวใหญ่         2            หัว
- ใบโหระพา
- ใบมะกรูด

ขั้นตอนการปรุง

- หั่นเนื้อไก่เป็นชิ้นพอดีคำพักไว้ก่อน หั่นถั่วฝักยาวพอดีคำพักไว้ก่อน ซอยหอม พักไว้
- จุดไฟตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันลงไป ตามด้วยพริกแกง ผัดให้พริกแกงหอมหวนชวนกิน
- ใส่เนื้อไก่ลงไป ผัดจนเนื้อไก่หอมเครื่องแกง เติมน้ำลงไปเลี้ยงไว้
- ตามด้วยเครื่องปรุง เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ซ้อสหอย ผัดให้เข้ากัน
- ตามด้วยหอมซอย
- จากนั้นใส่ถั่วฝักยาวผัดให้สุก สีเปลี่ยนเป็นสีเขียวเข้ม
- เพิ่มความหอมด้วย ใบมะกรูด และใบโหระพา เป็นอันเสร็จ


Advertisment


สูตรผัดพริกแกงไก่/หมู ใส่ถั่วฝักยาว เพิ่มความหอมด้วยใบโหระพา เป็นสูตรผัดพริกแกงที่คนไทยนิยมกินกัน ด้วยรสชาติของความเผ็ดนำหวานตามนิด และความหอมที่ลงตัว กินกับไข่เจียว หรือไข่ดาวก็ได้

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรเด็ดทำหมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง

หมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง

จะว่าไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อว่าอะไรดี ก็ตั้งตามวัตถุดิบที่เห็น จึงกลายมาเป็น ชื่ออาหาร "หมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง" ก็ตามนั้นเลย ส่วนการทำและปรุงก็ไม่ยาก มีผัก ใครกินลดความอ้วน ลดน้ำหนักก็ได้ เพราะกินผักเข้าไปไม่นานท้องก็อิ่มแล้ว มาดูสูตรเลย ตามรูปเลย


เครื่องปรุงสูตรน้ำจิ้ม:
- พริกซอย
- ผักชีหันฝอย
- น้ำปลา              3        ช้อนแกง
- น้ำตาล               2       ช้อนแกง
- มะนาว                2        ลูก
วิธีปรุงน้ำจิ้ม
   นำเครื่องปรุงทุกอย่าง ผสมรวมกัน แล้วคนให้น้ำตาล น้ำปลา ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมให้ได้รสชาติที่ชอบ

เครื่องปรุงสูตรน้ำจิ้มปลาร้าทรงเครื่อง
- พริกซอย
- ผักชีหันฝอย
- ข่าซอย
- มะนาวหั่นเป็นชิ้นเล็ก
- น้ำตาล               2       ช้อนแกง
- มะนาว                2        ลูก

วิธีปรุงน้ำจิ้ม
   นำเครื่องปรุงทุกอย่าง ผสมรวมกัน แล้วคนให้น้ำตาล น้ำปลาร้า ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ชิมให้ได้รสชาติที่ชอบ

วิธีทำหมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง
หมูต้ม
ต้มหมู 3 ชั้น ใส่เกลือ ใส่รากผักชี

รวมผัก
ซอยตะใคร้ ซอยมะเขือเทศ ซอยต้นหอม ผักชี

น้ำจิ้มปลาร้าทรงเครื่อง
สูตรน้ำจิ้มปลาร้าทรงเครื่อง หน้าตาเมื่อทำเสร็จ

หน้าตาน้ำจิ้ม เมื่อปรุงเสร็จ

หมูสามชั้น ซอยเป็นชิ้นพอดีคำ

ผักกาดขาว
ผักกาดขาวเอาไว้ห่อเป็นเมี่ยง

ขนมจีน
ต้องมีขนมจีนด้วย ถึงจะครบสูตร

หน้าตาหมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง 


อีกมุม


กินน้ำจิ้มกับแคปหมู

หมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง
สุดท้าย ดูวิธีการกิน ง่ายมากๆ เข้าปากเลย อร่อยสุดๆ
เป็นยังงัยกันบ้างละครับ หมูต้มจิ้มน้ำจิ้มและเมี่ยงหมูต้มจิ้มน้ำปลาร้าทรงเครื่อง ไม่มีที่ใหนเหมือน และเป็นอาหารที่ใครก็ทำได้ กินได้มีประโยชน์ อิ่มเร็ว ลดอ้วน มีวิตามินจากผักมากมาย ลองทำกินดูนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธีทำต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ด อร่อยง่ายๆ อาหารชอบของทุกคน

ต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ด
พูดถึงอาหารของไทยที่ขึ้นชื่อ มีชื่อเสียงโด่งดังไปใกลถึงต่างประเทศ ก็น่าจะเป็นต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ดนี่ละ ชาวต่างชาติที่ได้มาเที่ยวเมืองไทยก็ต้องได้ชิมต่างก็ติดใจในรสชาติกัน บางหน่วยงานและสถานที่ก็ได้มีจัดอาหารและแสดงวิธีทำอาหารไทยต้มยำกุ้ง

ต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ด
ต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ด

ต้มยำกุ้งน้ำใสรสเด็ด


เครื่องปรุงและวัตถุดิบ

- กุ้งแชบ๋วย                              1                      กก.
- เห็ดฟางผ่าครึ่ง                      1                     กก.
- พริกขี้หนูทุบพอแตก              1                     ขีด
- ตะไคร้บุบแล้วหั่นท่อนประมาณสองนิ้ว
- ใบมะกรูด พอประมาณ
- ผักชี                                       2                      ต้น
- น้ำมะนาว                            
- น้ำปลา


วิธีทำต้มยำกุ้งน้ำใส

ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกแล้วผ่าหลังเพื่อเอาเส้นดำๆ ออก หลังจากนั้นตั้งไฟ ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ลงไปพอเดือดอีกครั้งก็ใส่กุ้งลงไปได้ ไม่ต้องคน ถ้าคนจะเหม็นคาวของกุ้ง อย่าต้มกุ้งนาน มันจะทำให้กุ้งเหี่ยว หลังจากนั้นให้ทำใส่เครื่องปรุงรส น้ำปลา น้ำมะนาว เห็ดฟาง พริกขี้หนู แล้วรอให้เดือดอีกเล็กน้อยจึงปิดไฟ เสร็จพร้อมตักใส่ชาม จะทำขาย หรือกินเอง จากนั้น โรยหน้าด้วยผักชี เพียงเท่านี้ก็อร่อยอย่าบอกใครเชียว กับสูตรวิธีทำต้มยำกุ้งน้ำใส




รวมข้าวราดแกง

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรและวิธีทำ ไข่เจียวชะอมทอด ทำง่าย ขายได้ราคา

สูตรและวิธีทำ ไข่เจียวชะอมทอด

ไข่เจียวเป็นอาหารที่ใครรู้จัก บางคนทำไม่เป็นก็มีเยอะ วันนี้แนะนำ อีกสูตร ไข่เจียวชะอมทอด ที่มีกลิ่นของชะอม ที่ใครก็ชอบทาน สูตรและวิธีทำที่แสนจะง่าย เจียวไข่ได้รสชาติ กินกับน้ำพริก หรืดจะทำขายก็ได้ราคา


ต้นชะอม
ต้นชะอม


วัตถุดิบและเครื่องปรุง

1. ไข่ไก่          10                ฟอง

2. ยอดชะอม            2         มัดใหญ่ (ราคาตลาดส่ง มัดละ 8 บาท)

3. ซอสถั่วเหลืองปรุงรส        2     ช้อนแกง

4. ซอสหอยนางรม               2      ช้อนแกง

5. น้ำมันพืช

วิธีทำ

- นำชะอมล้างน้ำทั้งมัด จากนั้น เด็ดเอาเฉพาะยอดชะอม (ทนกลิ่นหน่อย น้ำชะอมมีกลิ่น) ใส่กะละมังพักไว้ก่อน
- ตอกไขไก่ทั้ง 10 ฟอง ลงกะละมัง และทำการดีให้ไข่ขาวและไข่แดงผสมกัน โดยใช้ช้อนส้อม
- เติมเครื่องปรุงลงไป ซอสถั่วเหลืองปรุงรส ซอสหอยนางรม แล้วตีให้เข้ากัน สูดดมจะหอมเครื่องปรุง
- นำยอดชะอมที่เด็ดไว้ เทลงไปในกะละมังที่มีไข่ ทำการคนให้เข้ากัน
- ตั้งไฟ ใส่น้ำมันลงไป ให้พอควร เวลาทอดจะได้ฟู
- ใช้ช้อนตักไข่ใส่ลงไป ในกะทะที่ร้อน สังเกตุเวลาทอดไข่จะฟู พลิกไข่เจียวกลับไปมา
- เมื่อได้ที่ไข่เจียวชะอมสุก ยกขึ้นพักให้สะเด็จน้ำมัน
- จากนั้น ก็นำไข่เจียวชุดใหม่ลงไปทอด

ไข่เจียวชะอมทอด
ไข่เจียวชะอมทอด

การตัดแต่ง
เนื่องจากว่าไข่เจียวชะอมทอด ที่ทอดได้จะเป็นแผ่นใหญ่ ให้ใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ เพื่อเวลาตักขายให้ลูกค้า จะได้กะปริมาณได้ง่าย

ข้อมูลเบื้องต้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acacia pennata (L.) Willd.ssp. insuavis
ชื่อวงศ์ : MIMOSEAE
ชื่อสามัญ : Impala Lily, Pink Bignonia, Mock Azalea, Desert Rose

สรรพคุณทางยา
ราก แก้ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ่อ ขับลมในลำไส้
แก้ลิ้นอักเสบเป็นผื่นแดง

สะตอ ประโยชน์ ชื่อวิทยาศาสตร์ สรรพคุณทางยา

สะตอ
สะตอ มีชื่อ วิทยาศาสตร์ ว่า Parkia_speciosa สะตอนิยมปลูกทางใต้ของไทย และ ปัจจุบันนิยมปลูกได้ทุกภาค ผลผลิตก็ออกมาสู่ท้องตลาด ในช่วงหน้าฝน และมีราคาแพงในช่วงแรก รสชาติของสะตอจะเผื่อน และมีกลิ่นเหม็นมาก ถ้าเป็นสะตอดาน หรือสะตอป่า จะมีกลิ่นเหม็น ถ้าเป็นสะตอบ้านกลิ่นไม่แรง

สะตอ
สะตอ


ประโยชน์
1. นำสะตอมาปรุงอาหาร เช่น ผัดเผ็ดสะตอกุ้งสด สะตอดอง กินดิบ ต้มทั้งฝักกินกับน้ำพริก
2. ช่วยเจริญอาหาร กินกับน้ำพริก
3. ช่วยย่อยอาหารในลำใส้
4. ลดน้ำตาลในเลือด
5. ขับลม
6. ขับฉี่
7. นำใบมากินดิบกับน้ำพริก
8. ต้นเป็นฟืน
9. ต้นเป็นร่มได้
10. เปลือกหุ้มเมล็ด สามารถต้มกินกับน้ำพริกได้

ผัดเผ็ดสะตอกุ้งสด


สรรพคุณทางยา
ตำราแพทย์แผนไทย จะใช้เมล็ด ขับลมในลำไส้ แก้ปัสสาวะพิการ ไตพิการ ชาวโอรังอัสลีในรัฐเประ ประเทศมาเลเซียใช้เมล็ดสดรับประทาน แก้อาการผิดปกติของไต

สะตอดิบ มีเมล็ดที่มีกลิ่นเหม็นเขียวรุนแรง แต่นิยมนำมารับประทานกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอาหารไทยปักษ์ใต้ หลังจากรับประทานสะตอเข้าไปจะมีกลิ่น สามารถดับกลิ่นสะตอ ด้วยการรับประทานมะเขือเปราะตามสักสองสามลูก สะตอเมื่อสุกจนฝักเป็นสีดำ เนื้อสะตอเป็นสีเหลืองบางๆ รับประทานได้ทั้งเม็ด เมล็ดในระยะนี้รสมัน เนื้อมีรสหวาน ถ้าแก่กว่าระยะนี้ ฝักจะแห้ง เมล็ดเป็นสีดำ แข็งและมีกลิ่นฉุนจัด กินไม่ได้

สะตอเป็นอาหารของคนไทย และกินกันมาช้านาน ทางใต้ของไทยเราก็กินกันเป็นประจำ สนับสนุนอาหารพื้นบ้านของไทยเรา มีขายตามตลาดทั่วไป

การเลือกซื้ออาหารต่างๆ เพื่อทำข้าวแกงขาย

การเลือกซื้ออาหารต่างๆ เพื่อทำข้าวแกงขาย
อาหารและวัตถุดิบในการปรุงอาหาร มีหลายประเภท เช่น อาหารสด ผักสด หมูสด อาหารแห้ง เครื่องแกง น้ำมัน เป็นต้น ล้วนมีความสำคัญในการปรุงอาหารไทย การเลือกซื้อต้องให้ความสำคัญ

ผัดสะตอ
ผัดสะตอ


การเลือกซื้ออาหารต่างๆ

อาหารสด ได้แก่อาหารจำพวก เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อปลา อาหารจำพวกนี้ต้องมีการเก็บเป็นอย่างดี ต้องเก็บในอุณหภูมิที่เย็น เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อเสีย เนื้อเน่า ถ้าเจอว่าเสีย หรือเน่า อย่าเสียดาย นำมาปรุงอาหาร เพราะรสชาติที่ได้จากการปรุงของเนื้อเน่า จะเหม็น  การซื้อ ถ้าอยู่ใกล้ตลาดสด ก็อาจจะซื้อเป็น วันต่อวัน

ผักสด ได้แก่ผักต่างๆ ที่ได้ซื้อมาทำแกง ผัด การเลือกซื้อว่าผักสดหรือไม่สด ให้ดูที่ลำต้น ใบ ดอก ให้สังเกตว่า เหี่ยวหรือไม่เหี่ยว ดูที่ราคาด้วย ถ้าราคาถูกมาก ก็จะได้ของที่ด้อยคุณภาพ

อาหารแห้ง ไดแก่ ปลาแห้ง กะปิ หมึกแห้ง ก่อนซื้อ ต้องดูให้ดี ว่ามีเชื้อราปนเปื้อนมาหรือไม่ การเก็บรักษา ก็ให้ไว้ในที่อากาศถ่ายเท เก็บให้ไกลจาก หนู แมว สุนัข

เครื่องปรุง ได้แก่ น้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย น้ำมัน ผงปรุงรส ก่อนซื้อต้องดูวันที่ผลิต และวันหมดอายุ สังเกตุรอยบุบ รอยแตกของขวดไม่มี ฝาปิดแน่นไม่มีรอยเปิด ฉีกขาด วิธีเก็บต้องเก็บให้พ้นจาก หนู แมว สุนัข

สิ่งสำคัญของการเลือกซื้ออาหารต่างๆ ต้องคำนึงถึงคุณภาพ และการเก็บรักษา เพราะรสชาติของอาหารที่อร่อย จะต้องมาจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพ สะอาด และปลอดภัย

สูตรบำรุงผิวหน้าด้วยแตงกวา ราคาถูก ลดริ้วรอยบนใบหน้า

สูตรบำรุงผิวหน้าด้วยแตงกวา ราคาถูก ลดริ้วรอยบนใบหน้า
แตงกวานอกจากทำอาหารได้แล้ว ก็ยังสามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์บนผิวหน้าของท่านสุภาพสตรีได้ด้วย จะเห็นโฆษณาในทีวี ที่มักจะซูมไปที่ใบหน้าของผู้หญิง มีแตงกวาหั่นเป็นชิ้นบางวางบนผิวหน้าและบนดวงตาทั้งสองข้าง แตงกวาเป็นไม่เลื้อย เป็นเถา วันนี้จะมาแนะนำสูตรบำรุงผิวหน้าด้วยแตงกวา



ข้อมูลเบื้องต้น
แตงกวา หรือ แตงร้าน มีชื่อเป็น ภาษาอังกฤษว่า Cucumber เป็นไม้เลื้อยตระกูลเดียวกับ แตงโม ฟักทอง บวบ มะระ และ น้ำเต้า มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอินเดีย อายุการเพาะปลูกอยู่ที่ 30 - 45 วัน

ประโยชน์ทั่วไป
แตงกวามีน้ำเป็นองค์ประกอบร้อยละ 96 ดังนั้นจึงมีประโยชน์เพิ่มความชุ่มชื้น และกำจัดของเสียออกจากร่างกาย

สารอาหารและแร่ธาตุที่มีอยู่ในแตงกวา

วิตามินซี   ผู้ที่ขาดวิตามินซี จะเป็นโรค ลักปิดลักเปิด มีอาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ปวดตามข้อต่อของร่างกาย เลือดออกตามไรฟัน แผลหายช้า เนื่องจากวิตามินซีทำหน้าที่ต่อต้านการอักเสบและช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย การได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอจะทำให้เส้นเลือดในร่างกายอ่อนแอ

กรดคาเฟอิก ช่วยป้องกันการสะสมของน้ำเกินจำเป็นในร่างกาย และช่วยกำจัดของเสียตกค้างในร่างกาย

การบำรุงผิวหน้าด้วยแตงกวา
เนื่องจากว่านแตงกวามีน้ำอยู่มาก และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหน้า จึงเป็นที่มาของการใช้แตงกวาในการบำรุงผิว

ผิวหน้าแห้งบำรุงด้วยแตงกวา
สูตร
- แตงกวา 2-3 ผล
- นมสด 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

ล้างแตงกวาด้วยน้ำแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ จากนั้น ปั่นรวมกับนมสดจนละเอียดรวมให้เป็นเนื้อเดียวกัน และจะได้เนื้อครีมข้นและเหนียว

วิธีใช้

ใช้ก่อนเข้านอน ล้างหน้าให้สะอาดและพอกหน้าด้วยแตงกวาที่ปั่นกับนม โดยจะพอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด และจะรู้สึกถึงผิวหน้าสดชื่นเต่งตึงขึ้นด้วย ควรทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

Cr. Image from Internet

ลดรอยดำคล้ำรอบดวงตา
นำแตงกวาไปล้างแล้วแช่ในตู้เย็น จากนั้นนำมาหั่นชิ้นบางๆ แล้วนำมาวางไว้บนดวงตา ประมาณ ครึ่งชั่วโมง หรือ 30 นาที แตงกวาจะทำหน้าที่สร้างความชุ่มชื้น และความเย็นจากแตงกวาจะส่งผลให้เลือดใหลเวียนรอบดวงตาได้ดี

ลบรอยเหี่ยวบนใบหน้า และสมานแผล
แตงกวามีวิตามินซี ซึ่งจะช่วยสมานแผล แผลที่กิดจากการอักเสบของสิว วิตามินซีในแตงกวาจะช่วยสมานแผลให้ได้ และน้ำผึ้งจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและทำให้แผลหายเร็ว จึงนำมาเป็นสูตรพอกหน้าลบรอยเหี่ยวยนและสมานแผลบนใบหน้า

สูตร
- แตงกวา              1   ผล 
- ไข่ขาวจากไข่ไก่ 1   ฟอง 
- น้ำมะนาว            1   ช้อนชา
- น้ำผิ่ง                  2   ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ 
ปอกเปลือกแตงกวาแล้วล้างน้ำให้สะอาด นำแตงกวาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปปั่นให้ละเอียด เติมเฉพาะไข่ขาว น้ำมะนาว และน้ำผิ้ง ลงไป จากนั้นปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน จะได้ครีมพอกหน้าแตงกวา

วิธีใช้ 
สูตรนี้แนะนำให้ทำ 2 - 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขั้นแรก ล้างหน้าให้สะอาด และเช็ดให้แห้ง จากนั้นใช้ครีมแตงกวาพอกให้ทั่วหน้า ยกเว้นรอบปากและดวงตา จับเวลาทิ้งไว้ 20 นาทีล้างออกด้วยน้ำสะอาด 

สูตรบำรุงผิวหน้าด้วยแตงกวา ราคาถูก ลดริ้วรอยบนใบหน้า เป็นการบำรุงผิวหน้าแบบที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิง ผู้ชายก็สามารถทำได้

ข้อมูลอ้างอิง http://th.wikipedia.org/wiki/แตงกวา

วันพุธที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธีการการเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อพลาสติก เป็นอาชีพเสริม รายได้เสริมลองดู

ขอนอกเรื่องขายข้าวแกง แต่ก็รวมอยู่ในเรื่องได้ครับ และก็อยากทำอยู่เหมือนกัน คือเลี้ยง ‘กุ้งฝอย’ ในบ่อพลาสติก ใช้พื้นที่น้อย สำหรับใครที่มีบ้านทาวน์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยว มีพื้นที่เหลือ ก็น่าจะลอง เพื่อเป็นรายได้เสริม หรือทำเป็นขายข้าวราดแกงก็ได้

กุ้งฝอย
กุ้งฝอย



เลี้ยง ‘กุ้งฝอย’ ในบ่อพลาสติก
วิธีการการเลี้ยงสัตว์น้ำแบบพอเพียงช่วยกู้วิกฤติเศรษฐกิจ ได้นอกจากเป็นส่วนหนึ่งในการทำการเกษตรทฤษฎีใหม่แล้วยังสามารถทำเป็นเสมือนครัวหลังบ้านหรือเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับครอบครัวได้ด้วยการเลี้ยงกุ้งฝอยในบ่อพลาสติก กก.ละ 100-200 บาท

ขั้นตอนการเตรียมบ่อ
1.เตรียมบ่อลึก 70 เซนติเมตร กว้าง 2 เมตร ยาว 8 เมตร
2.ปูก้นบ่อด้วยพลาสติกสีดำนำดินมาเทถมให้ทั่วก้นบ่อบนพลาสติกประมาณ 7-8 เซนติเมตร
3.เติมน้ำลงไปให้เต็มบ่อพอดี ทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน
4.นำสาหร่าย ผักตบชวาหญ้าขน นำมาทิ้งไว้ให้เป็นฟ่อนๆ ประมาณ 4-5 ฟ่อน
5.แล้วปล่อยกุ้งลงไปประมาณ 5 ขีด ช่วงปล่อยกุ้งลงไปไม่ต้องให้อาหารประมาณ 7 วัน เพื่อให้กุ้งปรับสภาพในบ่อ
บ่อพลาสติก
บ่อพลาสติก

อาหารกุ้งฝอย
1.ต้มไข่ให้สุก เอาเฉพาะไข่แดง 2 ฟอง
2.รำอ่อน 3 ขีดผสมให้เข้ากัน ปั้นเท่ากำปั้น โยนลงไปในบ่อประมาณ 3 ก้อน
หลังจากให้อาหารประมาณ1 เดือน กุ้งจะวางไข่ให้สังเกตตอนกลางคืนโดยการนำไฟฉายมาส่องดูว่ากุ้งจะวางไข่หรือไม่
เทคนิคการเร่งกุ้งให้วางไข่ ให้นำสายยางน้ำประปามาเปิดลงในบ่อ โดยการเปิดแรงๆ ประมาณ 10-20 นาที เพราะกุ้งชอบเล่นน้ำไหลแล้วจะดีดตัวทำให้ไข่ตกลงมา (ธรรมชาติน้ำนิ่งกุ้งไม่วางไข่) ประมาณ 1-2 เดือน กุ้งก็จะโตเต็มที่ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 เดือน จะได้กุ้งประมาณ 20-30 กิโลกรัมราคากิโลกรัมละ 100-200 บาท

สูตรวิธีการช่วยดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคในบ่อ และให้กุ้งโตเร็ว
1.EM 2 ช้อนแกง
2.กากน้ำตาล 2 ช้อนแกง
3.น้ำ 1 ลิตร
นำส่วนผสมมาหมักรวมกันตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม 1 อาทิตย์
อัตราส่วนในการใช้ : อีเอ็ม 1 ลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร ใส่บัวรดน้ำราดให้ทั่วบ่อ จะใช้หลังจากที่เติมน้ำลงไปก่อนปล่อยกุ้ง จะช่วยดับกลิ่นฆ่าเชื้อโรคในบ่อ กุ้งโตเร็ว

ต้องลองครับใครที่อยากหาราได้เสริม หรือจะทำขายข้าวแกงก็ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.rakbankerd.com และแหล่งข้อมูลจาก : คุณจันทร์ ชัยภา ที่อยู่ : หมู่ที่7 ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรผัดผักเหลียงใส่ไข่ เบต้าแคโรทีนสูงมาก มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สูตรผัดผักเหลียงใส่ไข่
วันนี้จะมาทำผัดผักเหลียงใส่ไข่ให้ทานกัน ผักเหลียง หรือ ผักเหมียง เป็นผักประจำถิ่นของจังหวัดระนอง ชุมพร ใครไปเที่ยวจังหวัดระนอง ก็ต้องกินผัดผักเหลียงใส่ไข่ และติดใจในรสชาติจะออกมันๆ แล้วกินกคู่กับน้ำพริกกะปิ เวลาเคี้ยวจะหนึบติดฟัน แต่วันนี้ทาง Admin ได้ไปซื้อผักเหลียงที่ตลาดไทมา กก. ละ 100 บาท (ราคาแพงมาก) แต่ก็ซื้อมาในราคา 50 บาท ซื้อมาลองผัดขายดูว่าจะมีใครกินบ้างหรือเปล่า
ผัดผักเหลียงใส่ไข่
ผัดผักเหลียงใส่ไข่


ข้อมูลเบื้องต้น ของผักเหลียง หรือ ผักเหมียง
ผักเหลียง ชื่อ ภาษากฤษ : Gnetum gnemon

ประโยชน์เบื้องต้น: ผักเหลียงนิยมปลูกตามร่องสวนยาง และใช้ใบมาผัด ต้มกะปิ แกงส้ม ลวกกะทิ

สรรพคุณทางยา สรุปเอาสั้นๆ:
สารอาหารในผักเหลียงที่ได้รับการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการจากภาคอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบว่าใบเขียวเข้มของผักเหลียงอุดมด้วยสารเบต้าแคโรทีนสูงมาก ซึ่งเหมาะกับเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และผู้ที่มีปัญหาในเรื่องสายตาหรือการขาดวิตามินเอ
 
          สารเบต้าแคโรทีนนั้นเมื่อไปจับกับไขมันจะเปลี่ยนเป็นโปรวิตามินเอ (วิตามินเอถ้าได้จากสัตว์จะอยู่ในรูปของวิตามินเอ แต่ถ้าได้จากพืชจะอยู่ในรูปของเบต้าแคโรทีน และเมื่อจับกับน้ำมันจะเปลี่ยนรูปไปเป็นวิตามินเอ เราเรียกว่าโปรวิตามินเอ) ซึ่งมีประโยชน์ในการแก้ตาบอดกลางคืนหรือตาฝ้าฟางได้ดี

          การทำงานของเบต้าแคโรทีนในการบำรุงสุขภาพของดวงตา เบต้าแคโรทีนจะย่อยสลายที่ตับแล้วจะได้วิตามินเอ ซึ่งร่างกายนำไปใช้สร้างสารโรดอปซินในดวงตา ส่วนเรตินา ทำให้ตามีความสามารถในการมองเห็นในตอนกลางคืนได้  และยังลดความเสื่อมของเซลล์ของลูกตา ลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อกระจกด้วย
 
          ประโยชน์ถัดมาคือลดความเสี่ยงต่อภาวะมะเร็ง จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญตัวหนึ่ง เมื่อร่างกายมีสารตัวนี้จึงช่วยป้องกันการเกิดเซลล์เนื้อร้ายหรือเซลล์มะเร็งได้ และยังช่วยกระตุ้นเซลล์ภูมิต้านทานในร่างกายที่ชื่อทีเฮลเปอร์ ให้ทำงานต้านสิ่งแปลกปลอมได้ดีขึ้น ให้ผลดีกับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อมะเร็ง และที่สำคัญกลุ่มสารดังกล่าวยังช่วยเติมความเปล่งปลั่งให้กับผิว ป้องกันความเหี่ยวย่น ชะลอความชราหรือต้านความแก่ได้ดี
 
          ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกของตำรายาสมุนไพรของชาวบ้านที่กล่าวว่า ผักเหมียงมีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อรับประทานแล้วจะช่วยบำรุงสายตา ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า แก้กระหายน้ำได้ดี โดยส่วนมากชาวสวนยางจะรู้ดีในเรื่องดี เวลากระหายน้ำหรือเหนื่อยมักจะเด็ดยอดอ่อนสด ๆ เคี้ยวไปเรื่อย ๆ ซึ่งจะช่วยลดการกระหายน้ำได้

         และทีเด็ดสำคัญคือชาวบ้านจะใช้ใบผักเหลียงบำรุงผิว โดยเฉพาะรักษาฝ้าได้ดี และรสหวานมันของผักยังช่วยบำรุงฟัน กระดูกและเอ็นได้ดี ซึ่งสอดรับกับคุณค่าทางโภชนาการ ในใบเหมียงนอกจากอุดมด้วยเบต้าแคโรทีนแล้ว ยังมีแคลเซียมสูงซึ่งมักจะพบมากในพวกผักใบเขียวอยู่แล้ว
น้ำพริกกะปิ
น้ำพริกกะปิ

 
          นอกจากนี้ กลุ่มสารอาหารที่สำคัญที่พบคือพวกวิตามินบี ซึ่งช่วยในเรื่องของระบบประสาท บำรุงประสาทได้ดี วิตามินบีหนึ่งนั้นดีต่อสมองและความจำ วิตามินบี 2 ช่วยเผาผลาญกรดอะมิโนจากโปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมัน ให้เป็นพลังงานแก่ร่างกาย ไนอาซินช่วยให้กระบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกายเป็นไปด้วยดี และทำให้กระบวนการผลิตไขมันที่จำเป็นเป็นไปด้วยดี

เครื่องปรุง และวัตถุดิบ
- ผักเหลียง                 1/2        กก.
- เนื้อหมูหั่น                1/2         กก.
- ไข่ไก่                        5           ฟอง
- น้ำมันหอย
- เกลือ                        2           ช้อนชา
- กระเทียม                 1            ขีด
- น้ำตาลทราย            1            ช้อนแกง
- น้ำเปล่า
วิธีปรุง
นำผักเหลียงมาเด็ดเอาเฉพาะยอด หั่นครึ่ง พักไว้ก่อน ตำกระเทียมพอแหลก ตั้งกะทะร้อนๆ ใส่กระเทียมลงไป เจียวให้หอม จากนั้นใส่หมูลงไป ตามด้วย ไขไก่ จากนั้นตีไขให้แตก ผัดให้เข้าเนื้อกับหมู ตามด้วยผักเหลียง ตามด้วยน้ำมันหอย เกลือ และน้ำตาล เิมน้ำเปล่าลงไป และชิมให้ได้รสชาติ เวลาผักให้สังเกตุที่ผักเหลียงว่าสุกหรือยัง โดยการสังเกตุที่ใบของผักเหลียงจะสีเขียวเข้ม จากนั้น ตักกิน ตักขายได้เลย

สูตรขายข้าวแกง ได้ทำเมนูนี้ขายมาหลายครั้งแล้ว ปรากฎว่า ขายดีมาก เพราะเป็นของแปลง ก่อนกิน ลูกค้าจะถามว่าผัดอะไร ก็บอกว่าเป็นผักเหลียงใส่ไข่พื้นบ้างทางปักษ์ใต้ ลูกค้าบอก ขอลองหน่อย ปรากฎว่ากินหมดจาน

ที่มาข้อมูล: kapook.com, wikipedia.org

สุดท้ายขอให้ค้าขายร่ำรวย ด้วยสูตรเด็ดสูตรข้าวราดแกง

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรเด็ด ผัดเผ็ดกุ้งสะตอ กะปิ พริกแกงพริกสด อร่อยสุดๆ

ผัดเผ็ดกุ้งสะตอ
ผัดเผ็ดกุ้งสะตอ
ผัดเผ็ดกุ้งสะต
มาถึงอาหารปักษ์ใต้ ผัดเผ็ดกุ้งสะตอ เป็นอาหารที่รู้จักกันไปทั่ว นิยมกินกันมาก ช่วงสะตอออกสู่ตลาดใหม่ๆ ราคาแพง แต่ Admin สูตรข้าวราดแกง ก็นำมาขายในราคาไม่แพง มีกุ้งเป็นตัวสดจากตลาด วิธีการทำไม่ยาก Admin ตำเครื่องแกงเอง ใช้พริกสด เขียวแดงนำมาตำรวมกับกระเทียม ได้กลิ่นเครื่องแกง หอมกลิ่นสะตอ มาดูวิธีทำได้เลย


เครื่องปรุงและวัตถุดิบ
- สะตอ ตามใจชอบ
- กุ้ง                               1/2       กก.
- เนื้อหมู                         2          ขีด
- พริกแดงใหญ่ พอประมาณ
- กะปิแกง                      1           ช้อนแกง
- พริกสด                        1           ขีด
- กระเทียมสด                1            ขีด
- น้ำมันพืช
สะตอ
สะตอ
- น้ำตาลทราย
- ซีอิ๊วขาว
- น้ำเปล่า

วิธีทำเครื่องแกง
(1)นำพริกสดและกระเทียมลงไปโขลกพอแหลก พักไว้ก่อน

วิธีทำ
นำกุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลังเอาเส้นดำออก ล้างน้ำให้สะอาด พักไว้ก่อน นำสะตอมาผ่าครึ่งที่เม็ด แกะเอาเฉพาะเม็ดและนำไปแช่น้ำ เพื่อลดกลิ่นฉุน พักไว้ก่อน หั่นหมูเป็นชิ้น พักไว้ก่อน

จากนั้น นำกะทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันพืชลงไป ตามด้วยเครื่องแกงที่โขลกไว้(1) ตามด้วยกะปิ ทำการผัดให้หอม กลิ่นเครื่องแกงและกะปิ จากนั้นใส่หมู ผัดให้ผมูสุก และตามด้วยกุ้ง ตามด้วยเครื่องปรุง น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำเปล่านิดหน่อย พอขลุกขลิก ชิมให้ได้รส กะปินำ เผ็ดนิด สุดท้ายตามด้วยพริกแดงเพิ่มสีสัน





ผัดเผ็ดกุ้งสะตอ กะปิ พริกแกงพริกสด เป็นการนำวัตถุดิบมาใช้ปรุงอาหารให้ได้รสชาติที่ลงตัว เช่นตำเครื่องแกงเอง ซึ่งเป็นการเพิ่มรสชาติ ซึ่งแตกต่างจากการซื้อเครื่องแกงสำเร็จรูป

รวมสูตรข้าวราดแกง

วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สูตรต้มจืดหัวผักกาด ใส่หมูสับ ลูกชิ้นหมู

Admin ไม่ได้มานำเสนอสูตรข้าวราดแกงมานานหลายเดือนแล้ว วันนี้ได้ทำต้มจืดหัวผักกาด ใส่หมูสับ และลูกชิ้นหมู มาให้ได้ลองทำลองขายข้าวแกงกัน หรือจะทำเลี้ยงกันก็ได้ เด็กกินได้ ซดน้ำก็อร่อย สูตรต้มจืดหัวผักกาด ก็ไม่ยาก ทำง่าย วัตถุดิบเครื่องปรุงก็ไม่ซับซ้อน ตามดูได้ด้านล่าง

ต้มจืดหัวผักกาด

เครื่องปรุง และวัตถุดิบ
- หัวผักกาดขาว                   1      กก.
- หมูสับ                                1      กก.
- ลูกชิ้นหมู                           1/2   กก.
- ผักชี/ต้นหอม ตามใจชอบ พอประมาณ
- เกลือ   พอประมาณ
- น้ำมันหอย                         2    ช้อนแกง
- ผงปรุงรส (แล้วแต่ ใครจะใส่ ก็ได้ ไม่ใส่ก็ได้)


ต้มจืดหัวผักกาด

วิธีปรุง
นำผักกาดขาวมาหั่นเป็นลูกเต๋าพักไว้ก่อน นำน้ำสะอาดลงใส่หม้อ จุดไฟ แล้วรอน้ำเดือด จากนั้น ใส่รากผักชีบุบ ลงในน้ำที่เดือด จากนั้นนำหัวผักกาดขาว ใส่ลงในหม้อที่กำลังเดือดและทำการตุ๋นให้เปื่อยพอประมาณ จากนั้น ให้ใส่หมูสับ และลูกชิ้นหมูลงไป ตามด้วยเครื่องปรุง เกลือ น้ำมันหอย แล้วลองชิมให้ได้รสชาติ ตามใจชอบ และขั้นตอนสุดท้าย ให้หั่น ผักชี ต้นหอมซอยลงไป ก็จะได้รสชาติ หน้าตาชวนกิน พร้อมตักแกง ต้มจืดหัวผักกาดขาย

สูตรต้มจืดหัวผักกาด ใส่หมูสับ ลูกชิ้นหมู ใครๆ ก็ทำได้ไม่ยาก ทำกินที่บ้าน หรือทำกินยากไปพักผ่อนตามสถานที่ท่องเที่ยวก็ไม่ว่ากัน




วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กินเพื่อสุขภาพ มะเขือเปราะลดน้ำตาลในเลือด

Admin สูตรข้าวแกงไม่ได้อัพเดทข้อมูลมาช่วงหนึ่งแล้ว วันนี้พอมีเวลาว่าง ก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับ มะเขือเปราะมาให้ได้อ่านกัน Admin เป็นคนนึงที่ชอบกินมะเขือเปราะมาก ชอบกินดิบ จิ้มกับน้ำพริก มันจะทำให้ได้รสชาติของมะเขือเปราะที่ออกจะหวานนิด มันหน่อย ชอบแบบอ่อน เมล็ดไม่แก่ คือ กลัวเป็นใส้ติ่ง (หรือเปล่าก็ไม่รู้) มาดูข้อมูลของเจ้ามะเขือเปราะกันได้เลย


อาหารที่มีมะเขือเปราะ
มะเขือเปราะ (Yellow berried nightshade หรือ Kantakari ในประเทศอินเดีย)
ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Solanum xanthocarpum Schrad. & Wendl.
วงศ์ Solanaceae
มะเขือเปราะเป็นพืชผักที่กินผล มีชื่อเรียกอื่นๆ ดังนี้ มะเขือขื่น มะเขือเสวย (ภาคกลาง) มะเขือขันคำ มะเขือคางกบ มะเขือดำ มะเขือแจ้ มะเขือจาน มะเขือแจ้ดิน (เหนือ) เขือพา เขือหิน (ใต้) มั่งคอเก (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน) มะเขือหืน (ภาคอีสาน)
ต้นมะเขือเปราะมีลักษณะเป็นไม้พุ่มสูง 2-4 ฟุต มีอายุอยู่ได้หลายฤดูกาล มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดีย








ข้อมูลทางการแพทย์

การแพทย์อายุรเวทของอินเดียใช้รากมะเขือเปราะ รักษาอาการไอ หอบหืด อาการหลอดลมอักเสบ ขับปัสสาวะ และขับลม

ผลใช้ขับพยาธิ ลดไข้ ลดอักเสบ ช่วยการขับถ่าย ช่วยย่อยอาหาร และกระตุ้นทางเพศ
ประชากรในแคว้นโอริสสา ของประเทศอินเดียใช้น้ำต้มผลมะเขือเปราะรักษาโรคเบาหวาน
งานวิจัยนานาชาติระหว่างปี พ.ศ.2510-2538 พบว่าผลมะเขือเปราะมีฤทธิ์ลดการบีบตัวกล้ามเนื้อเรียบ ต้านมะเร็ง บำรุงหัวใจ และลดความดันเลือด

ผลของการต้านมะเร็ง
ผลมะเขือเปราะมีไกลโคอัลคาลอยด์โซลามาร์จีน โซลาโซนีน และอัลคาลอยด์โซลาโซดีนที่ปราศจากโมเลกุลน้ำตาล การทดสอบฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งของสารเหล่านี้พบว่า ทุกตัวมีฤทธิ์ต้านการเจริญของเซลล์มะเร็งตับและลำไส้ใหญ่

พบว่าฤทธิ์ของไกลโคอัลคาลอยด์สูงกว่าโมเลกุลไร้น้ำตาล ราก ต้นและผลแก่มีสารอัลคาลอยด์เหล่านี้ต่ำ แต่ผลเขียว (เหมือนที่คนไทยกิน) มีสารที่มีประโยชน์เหล่านี้ในปริมาณสูงกว่าส่วนอื่นของพืชดังกล่าว

สารโซลาโซดีนใช้เป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สเตียรอยด์คอร์ติโซนและฮอร์โมนเพศได้
ผลตากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำผึ้งใช้ปรุงยาแก้ไอ

ผลของการใช้ลดน้ำตาลในเลือด

งานวิจัยที่แคว้นโอริสสา ประเทศอินเดีย ใช้สารสกัดน้ำของผลมะเขือเปราะลดปริมาณน้ำตาลในเลือดของหนูเบาหวานอะล็อกซาน พบว่าได้ผลลดน้ำตาลในเลือดดีเท่ากับการใช้ยากลิเบนคลาไมด์ (glibenclamide)

การทดสอบเพิ่มเติมพบว่า สารสกัดดังกล่าวออกฤทธิ์คล้ายอินซูลิน โดยช่วยเสริมการใช้งานกลูโคสอย่างมีประสิทธิภาพ และมีผลเชิงบวกต่อการทำงานของตับอ่อน สารสกัดน้ำของผลมะเขือเปราะไม่มีพิษต่อสัตว์ทดลองแต่อย่างใด

เมื่อใครได้รับทราบและรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของเจ้ามะเขือเปราะแล้ว ก็หามากินกันได้นะครับ เวลามีแกงที่มีมะเขือเปราะเป็นส่วนประกอบ ก็มักจะเขี่ยทิ้งกัน ไม่กินกัน แต่คุณหารู้ไม่ว่ามันมีประโยชน์มาก

ข้อมูลอ้างอิง: www.doctor.or.th

วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

กินน้ำมะนาวผสมโซดา ก่อนกินอาหารเช้า ช่วยลดไขมัน ได้ผลดี

เนื่องจากว่า Admin ได้เห็น โลก Social ได้ แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพมากมาย แตก็มีข้อมูลนึงที่น่าสนใจ ก็คือการ กินน้ำมะนาวผสมโซดา ช่วยลดไขมัน และก็นั่งคิดว่า เราก็ทำได้ ง่าย คือไม่ต้องไปหาซื้อวัตถุดิบที่หาซื้อยาก อย่างเช่น ยาลดความอ้วน ราคาสูง แต่ กินน้ำมะนาวผสมโซดาเพื่อลดไขมัน และลดความอ้วน มันหาวัตถุดิบง่าย เพียงคุณแวะตลาดหาซื้อมะนาว แวะร้านโชวห่วยหาซื้อโซดา และพร้อมที่จะทำการดื่มได้เลย

Admin ก็ทำตามและก็กินมาได้ระยะนึงแล้ว และก็เห็นผล ก็คือสามารถลดไขมันหน้าท้องลงได้ ถึงแม้นจะใช้เวลาบ้าง แต่ก็ดีต่อสุขภาพ

และนี้คือข้อมูล อ้างอิงจาก Kapook.com

หากคุณอยากจะแก้ไขปัญหาระบบการทำงานของลำไส้ให้ดีขึ้นอย่างที่กล่าวมาข้างต้น วันนี้เราจึงขอแนะนำเมนูสุดยอดตัวช่วยลดน้ำหนักให้คุณได้ไปลองทำดู อย่าง "น้ำมะนาวโซดา" ซึ่งมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ เพียงแค่สาว ๆ บีบน้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับโซดา 1 ขวด ซึ่งมีฤทธ์เป็นกรด แล้วดื่มทุกเช้า จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว เพื่อให้สารพิษถูกดันออกมากับอุจจาระ หลังจากที่ดื่มแล้วคุณจะรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำทันที วิธีนี้เรียกว่า "การดีท็อกซ์ลำไส้" นั่นเองค่ะ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานอย่างเป็นปกติ ร่างกายจะสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งน้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมให้กักเก็บเอาไว้ในเซลล์ไขมันได้ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น ทำให้น้ำหนักของคุณสาว ๆ ลดลงได้อย่างที่ต้องการ และไม่ต้องหนักใจกับปัญหาเดิม ๆ อีกต่อไปค่ะ
แต่ถ้าจะให้ดี ก็ขอให้ลองทำดื่มกันดู จะเห็นผลอย่างไรก็บอกกันบ้าง