อาหารทำเอง, อาหารง่ายๆ, สูตรข้าวแกง, สูตรอาหาร อร่อยๆ, อาหารไทย, วิธีทำอาหาร อาหารไทยง่ายๆ





วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ไปสักการะ พระนารายณ์ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สระบุรี เงียบสงบ

ไปสักการะ พระนารายณ์ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) สระบุรี

ไปไหว้พระ และ สักการะ พระนารายณ์ ที่ วัดเขาวง สระบุรี เป็นวัดที่ร่มเย็น เงียบ สงบ มีต้นไม้ร่มรื่น วัดตั้งอยู่หน้าถ้ำพระนารายณ์ มีสระน้ำ ซึ่งน้ำก็ไหลออกมาจากถ้ำ ในสระน้ำมีปลาเลี้ยง เส้นทางไป ก็ไม่ยาก อยู่ ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท สระบุรี

ประวัติ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์)

วัดเขาวง ตั้งอยู่เลขที่ 62/1 หมู่ 5 ตำบลเขาวง อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี ได้รับอนุญาตให้สร้างวัด เมื่อวันที่
5 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 และได้รับอนุญาตให้ตั้งวัดตามลำดับ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน
พ.ศ. 2521 มีบริเวณกว้าง 30 เมตร ยาว 51 เมตร เนื้อที่ 1,500 ตารางเมตร ดำเนินการผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สถานที่แห่งนี้ เป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญมาเป็นเวลายาวนาน สืบความไปถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชเสด็จจากวังนารายณ์ เมืองละโว้ (ปัจจุบัน คือ ลพบุรี) ไปว่าราชการ ณ กรุงศรีอยุธยา ทรงผ่านประทับพักแรม ณ ถ้ำนารายณ์  และสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมซึ่งเสด็จนมัสการรอยพระพุทธบาท ก็ได้เสด็จประทับพักแรมในถ้ำนารายณ์ ซึ่งมีอากาศเย็นสบายตลอดปี และจารึกอักษรผนังปากถ้ำก็ปรากฎหลักฐานว่าถ้ำนี้ได้เคยเป็นที่ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลเนื่องในการเผยแผ่และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางพระพุธศาสนากับประเทศศรีลังกามาตั้งแต่สมัยอนุราชปุระเมื่อกว่า 1,200 ปีมาแล้ว ผ่านความรุ่งเรืองและเสื่อมโทรมและฟื้นฟูขึ้นเป็นวัดตามประเพณีการปกครองแผ่นดินและการสืบอายุพระพุทธศาสนาดังกล่าวข้างต้น

ปัจจุบันนี้ โดยการนำของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโน) และพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโน) แห่งวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดเขาวงได้พัฒนาขึ้นมาสู่สภาพวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) เพื่อรักษาไว้เป็นมรดกวัฒนธรรมศาสนาของชาติ สืบไป




รูปปั้น พระนารายณ์ วัดเขาวง สระบุรี
รูปปั้น พระนารายณ์ วัดเขาวง สระบุรี


ภายในถ้ำพระนารายณ์
ภายในถ้ำพระนารายณ์


ซุ้มประตูทางเข้าถ้ำ พระนารายณ์
ซุ้มประตูทางเข้าถ้ำ พระนารายณ์


Advertisment



อาหารไทย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.
Share:

วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ผัดซีอิ๊วหมูกรอบ เส้นใหญ่ วิธีทำ สูตร ทำง่ายขายคล่อง ทำกินดี

ผัดซีอิ๊วหมูกรอบเส้นใหญ่ วิธีทำ สูตร ทำง่ายขายคล่อง ทำกินดี

ผัดซีอิ๊ว เป็นเมนูอาหารตามสั่ง ยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู เนื่องจากอาจจะเบื่อข้าวกะเพราไก่ หมู หมึก กุ้ง ข้าวผัด ผัดพริกแกงต่างๆ ผัดซีอิ๊วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนชอบเมนูอาหารตามสั่ง ผัดซีอิ๊ว เส้นใหญ่ใส่หมูกรอบ 3 ชั้น สั่งโดยลูกค้า ก็ผัดให้กิน ผลที่ออกมาเป็นอย่างไร ไปชม Video clip แต่ก่อนอื่นก็มีสูตรผัดซีอิ๊วให้ก่อน เผื่อเอาไปทำกินกัน

INGREDIENTS

  1. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่
  2. คะน้าฮ่องกง     4      ต้น
  3. น้ำตาลทราย     2      ช้อนชา
  4. ซีอิ๊วดำ             1       ช้อนชา
  5. หมูกรอบหั่น      10     ชิ้น
  6. น้ำปลา             2       ช้อนชา
  7. ไข่ไก่                1       ฟอง
  8. น้ำมันพืช
  9. น้ำมันหอย

DIRECTION           

เตรียมของทุกอย่างพร้อม เช่น หั่นคะน้า ก็สามารถกินได้ทั้งต้นและใน ซึ่งคะน้าฮ่องกงต้นจะอ่อน จากนั้นตั้งกะทะร้อน ตามด้วยน้ำมันพืช ตามด้วยหมูกรอบ ตามด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยว ตามด้วยไข่ไก่ ผัดให้เข้ากัน จากนั้นก็ตามด้วยเครื่องปรุงทั้งหมด สุดท้ายตามด้วย ผักคะน้า ลองไปดู Video clip กัน





Advertisement




Share:

วันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559

อาหารตามสั่ง ผัดฉ่ากุ้งทะเล ใส่ผักตามลูกค้าสั่ง

อาหารตามสั่ง ผัดฉ่ากุ้งทะเล ใส่ผักตามลูกค้าสั่ง

เมนูอาหารตามสั่ง กุ้งผัดฉ่า หรือ ผัดฉ่ากุ้งทะเล ผักตามใจลูกค้า ด้วยรสชาติของเครื่องสมุนไพรและผักต่างๆ ทำให้ผัดฉ่าเป็นที่ชื่นชอบของใครต่อใครหลายคน ขิง เผ็ดร้อนของพริกไทสด ทำให้ผัดฉ่าราดข้าวคงความอาหารไทยอยู่ได้ สูตรผัดฉ่า ก็ไม่ยุ่งยากเพียงแต่ต้องเตรียมเครื่องให้พร้อม ก็สามารถผัดเสร็จได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ผัดฉ่ากุ้งทะเล
ผัดฉ่ากุ้งทะเล
Advertisment





INGREDIENTS



กุ้งสด       5         ตัว

พริกอ่อน      1       ฝัก

พริกไทอ่อน

น้ำมันหอย     1      ช้อนแกง

น้ำตาลทราย    2     ช้อนชา

น้ำปลา             2     ช้อนชา

ผงปรุงรส         1       ช้อนชา

น้ำสต็อกไก่      2       ช้อนแกง

ขิงซอย

น้ำมันพืช         1       ช้อนแกง

มะเขือเปราะ หั่น ผ่าซีก



DIRECTION





  1. กุ้งสดแกะเปลือก ผ่าเส้นหลังออก ล้างน้ำ พักไว้ก่อน
  2. ตั้งกะทะ ใส่น้ำมันพืช ตามด้วยกุ้ง ผัดพอสุก
  3. ตามด้วยมะเขือ ขิงซอย พริกหยวกซอยให้สวยงาม โยนลงไป ทำการผัดให้พอสุก
  4. ตามด้วยเครื่องปรุง น้ำตาลทราย น้ำมันหอย น้ำปลาปรุงรส สุดท้ายตามด้วย น้ำสต็อก

เคล็ดลับในการผัด ควรเลือกกุ้งที่มีขนาดกลาง เพราะเวลาผัดแล้ว เนื้อกุ้งจะไม่หดเหี่ยว เพราะถ้าผัดขาย ก็จะเหมือนได้กุ้งน้อย


Advertisment


Share:

รวมเมนูอาหารและน้ำผลไม้ต้านมะเร็ง

รวมเมนูอาหารและน้ำผลไม้ต้านมะเร็ง

เมนูอาหารและน้ำผลไม้ต้าน มะเร็ง อาหารแบบไทยๆ ก็มีหลากหลายเมนูที่เรารู้จักที่สามารถทำเป็นเมนูอาหารต้านมะเร็ง ผักบางอย่างสามาถหาได้ตามริมรั้วรอบบ้าน หรือสามารถปลูกเพิ่มได้ ยิ่งผักใบเขียวยิ่งมีประโยชน์มาก

ผัดมะรุมกุ้งเสียบ
แกงจืดยอดตำลึงสาหร่าย
เส้นหมี่ราดหน้าผักรวม
ปลาทับทิมสามรส
แกงเผ็ดเป็ดย่าง
แกงส้มผักรวม
ส้มตำไทย
ชาเห็ดหลินจือ
ไข่ผัดกะหล่ำม่วง
แกงเลียงผักรวม
วุ้นเส้นผัดไทยใส่กุ้ง
แกงจืดตำลึงเต้าหู้
ฉู่ฉี่ปลาทับทิม
ต้มยำเห็ด
น้ำแครอท
แกงจืดผักรวม
มะระจีนผัดถั่ว
สลัดผักใส่ถั่วแดงหลวง
ผัดคะน้าน้ำมันหอย
แกงเขียวหวานไก่
ยำวุ้นเส้น
ชามะรุม

15 ผักผลไม้ที่กินแล้วมะเร็งไม่ชอบ

ข้าวกล้อง
ข้าวสาลี
หอมแดง
ยอดแค
คะน้า
ข้าวดอย
เมล็ดเดือย
กระเทียม
ข้าวโพดหวาน
กวางตุ้ง
ข้าวบาร์เลย์
หอมใหญ่
ถั่วพู
มันเทศ
บล็อคเคอรี่


Share:

วันอังคารที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2559

หมูผัดน้ำมันหอย - วิธีทำพร้อมสูตร ง่าย อร่อย

หมูผัดน้ำมันหอย - วิธีทำพร้อมสูตร ง่าย อร่อย

หมูผัดน้ำมันหอย เป็นเมนูตามสั่งอีกอย่างที่นิยมกินกัน เด็ก ผู้ใหญ่ ทานได้ ไม่เผ็ดแต่ถ้าใครชอบเผ็ดร้อน ก็ใส่พริกไทลงไป หรือจะกินกับพริกน้ำปลาก็ไม่ว่ากัน สูตรหมูผัดน้ำมันหอยสูตรนี้ก็ได้จากร้านเมนูตามสั่งที่อาหารไทย by Aerk ได้เปิดร้านอาหารตามสั่งขึ้นมาเอง เป็นสูตรที่ทำกินบ่อยตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดร้าน ไปดูว่า เมนู หมูผัดน้ำมันหอย สูตร และวิธีทำ ง่ายๆ กัน
หมูผัดน้ำมันหอย
หมูผัดน้ำมันหอย

INGREDIENTS


1. เนื่อหมูสันใน     1/2      ถ้วย
2. น้ำมันหอย         2         ช้อนแกง
3. กระเทียมสับ      5         กลีบ
4. น้ำตาลทราย     2         ช้อนชา
5. ผงปรุงรส           1/2      ช้อนแกง
6. น้ำสต็อก            2         ช้อนแกง
7. ซีอิ๊วดำ
8. หอมใหญ่          1/2       หัว
9. น้ำมันพืช         2         ช้อนแกง

DIRECTION


- นำเนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ พักไว้ก่อน
- หั่นหอมใหญ่ ให้เป็นไปตามแนวของหัว
- ตั้งกะทะ เปิดไฟ ตามด้วยน้ำมันพืช
- เมื่อน้ำมันเริ่มร้อน ให้ตามด้วยกระเทียม ผัดให้หอม จากนั้นตามด้วยเนื้อหมู ทำการรวนผัดให้พอสุก ใส่น้ำสต็อกไป ในกะทะ กันไม่ให้เนื้อหมูไหม้
- จากนั้นเตรียมเครื่องปรุงต่างๆ น้ำตาลทราย น้ำมันหอย ผงปรุงรส ซีอิ๊วดำ เทลงบนตะหลิว แล้วคนให้เข้ากับเนื้อหมู จะได้กลิ่นหอม
- ตามด้วยหอมใหญ่ที่หั่นเอาไว้แล้ว ผัดจนสุก ตักราดบนข้าวสวยร้อนๆ ทานได้เลย

สูตรข้าวราดแกง
สูตรอาหารตามสั้ง
Share:

เรื่องเล่า วิถีชีวิตคนทำน้ำตาลโตนด สุราษฎร์ธานี

เรื่องเล่า วิถีชีวิตคนทำน้ำตาลโตนด สุราษฎร์ธานี


น้ำตาลโตนด
(Source:https://th.wikibooks.org/)


น้ำตาลโตนด ในวัยเด็กอะไรๆ ก็สนุกไปหมด ช่วงปิดเทอมก็ได้ไป จ. สุราษฎร์ธานี ไชยา เป็นถิ่นทำนาข้าว ทำ น้ำตาลโตนด เป็นอาชีพหลัก โดยตามคันนาก็มีต้นตาลสูงใหญ่ ในวันหนึ่งตอนเช้า ได้ยินเสียงรถไฟวิ่งผ่าน เปิดหวูดเสียงดังมาแต่ไกล ทำให้เด็กคนหนึ่งที่บ้านมีแต่ภูเขา ต้นไม้ ที่ไม่เคยเห็นรถไฟ ก็ตื่นขึ้นมาเพื่อดูรถไฟวิ่ง เป็นขบวนยาว เมื่อขบวนรถไฟผ่านไป เสียงกระบอกไม้ไผ่ก็ดังกระทบกัน เป็นกระบอกใส่น้ำตาลสดจากต้นโตนด

ปู่ก็บอกว่า ไปเราไปเก็บน้ำตาลสดกัน เด็กน้อยเดินข้ามถนน ตามปู่ไป อากาศตอนเช้าดีมากๆ เย็นสบาย เดินตามไปตามคันนา ปู่ยืนหยุดใต้ต้นโตนดสูงใหญ่ ปู่บอกว่า คอยนี้ละเดี๋ยวจะขึ้นไปเก็บน้ำตาลโตนด จากนั้น ปู่ก็ปีนขึ้นไปตามต้นไม้ไผ่ ที่มีกิ่ง เรียกว่า "โอง" ปีนขึ้นพร้อมกับกระบอกเก็บน้ำตาล และก็เอากระบอกที่มีน้ำตาลสดลงมา

ปู่ยื่นให้ชิม เด็กชายได้ลิ้มลองน้ำตาลโตนดสด  หอม หวาน กลมกล่อม มาก จากนั้นปู่ก็ไปเก็บที่ต้นตาลต้นอื่นต่อไป

เมื่อเก็บเสร็จ เด็กน้อยก็ช่วยปู่แบกกลับบ้าน 2 กระบอก ไปจนถึงโรงกวนน้ำตาลปึก ที่มีหลังคาเป็นใบตาล

สมัยนั้นไม้ฟืนยังมีอยู่มาก ยังหาได้ ปู่จุดไฟฟืน เตาจะเป็นเตาที่ก่อจากปูน ใช้ไม้ฟืนท่อนยาว เมื่อไฟลุกได้ที่ ก็ตั้งเตาใบใหญ่มากๆ แล้วก็เทน้ำตาลสดแต่ละกระบอกลงไปในกะทะ เกือบเต็มกะทะ

จากนั้นลงมือกวน กวนน้ำตาลโตนดตั้งแต่ยังเป็นน้ำขุ่นๆ จนกลายเป็นน้ำตาลปึกสีแดงเข้ม เมื่อกวนจนได้ที่ก็จะตักวางลงบนใบตอง หรือใบกล้วย ให้เป็นปึก แล้วปล่อยให้แข็งตัว แล้วก็ใส่ถุงชั่งกิโลไปขาย

เด็กน้อยไรเดียงสา กวนไป ก็ใช้นิ้วจิ้มไปชิมน้ำตาลไป หวาน หอม อร่อย

นี่แหละวิถีชีวิตคนทำน้ำตาลโตนด สุราษฏร์ธานี บ้านห้วย ไชยา

เรื่อง http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/

Share:

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กะเพรา ให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง Holy Basil

กะเพรา ให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง Holy Basil

กะเพรา ต้น ใบ ดอก
กะเพรา ต้น ใบ ดอก ริมทาง


จะว่าไป กะเพรา เราทราบดีอยู่แล้วว่าทำอาหารคาวด้วยใบกะเพรา ช่วยดับกลิ่นคาวและเพิ่มรสชาติอาหารได้เป็นอย่างดี นิยมทำเป็นข้าวกะเพรา ไก่ หมู กุ้ง กะเพราทะเล แต่หารู้ไม่ว่า ใบกะเพรามีประโยชน์ที่ใกล้ตัวเราและดีด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ มีฤทธิ์ต้านที่เป็นตัวทำให้เกิดอาการท้องเสีย แต่ยังมีอย่างอื่นที่สาวๆ ชอบ

ยับยั้งการสังเคราะห์ของสารที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น ยับยั้งการอักเสบของสิว

มาดูคุณค่าทางอาหารของใบกะเพรา ว่ามีอะไรบ้าง ใบกะเพรามี วิาตมินเอ บำรุงสายตาและป้องกันการเสื่อมของตาก่อนจะสายวัยอันควร ซึ่ง น้ำหนักใบกะเพรา 100 กรัม ก็จะให้เบต้าแคโรทีนสูงถึง 7,000 กว่า ไมโครกรัม ซึ่งสารนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกายนั่นเอง

อีกสรรพคุณของใบกะเพราที่มีมาแต่โบราณ คือ ใช้เป็นยาประจำบ้าน ยาฉุกเฉิน แก้จุกเสียด แก้แน่นท้อง ช่วยขับลม ใครที่มีอาการดังกล่าว และใกล้บ้านมีใบกะเพรา ก็ให้เตรียมต้มน้ำให้เดือด แล้วใส่ใบกะเพราลงไป จากนั้น ก็กรองเอาเฉพาะน้ำดื่ม แก้อาการดังกล่าวเบื้องต้นได้

ลักษณะของใบกะเพรา

บ้านเรา มีใบกะเพรา ที่เห็นๆ ตามท้องตลาด คือ กะเพราขาว และ กะเพราแดง โดยสังเกตุได้จากสีของก้านใบ โดยความเผ็ดร้อนมีมากในใบกะเพราแดง

การปลูกกะเพรา มี 2 แบบ โดยปลูกเป็นการค้า จะใช้เมล็ด หว่านในแปลงปลูก แล้วใส่ปุ๋ยเร่งใบ ทำให้กะเพราชนิดนี้มีใบที่ใหญ่ และระยะเก็บเกี่ยวสั้น จะเห็นได้จากตลาดค้าส่ง ส่วนรสชาติ สู้กะเพราที่ปลูกตามบ้านไม่ได้ ดังจะกล่าวต่อไป

ปลูกตามบ้าน ปลูกในกะถาง ซึ่ง การปลูกแบบนี้ จะได้ต้นกะเพราที่ใหญ่ มีกลิ่นหอมฉุนมากกว่ากะเพราที่ปลูกขาย รสชาติที่ได้จากการทำอาหารก็จะดีกว่า เรียกว่าหอมเลยทีเดียว

กะเพราใช่ว่าจะมีประโยชน์แต่ใบอย่างเดียวนะ ไปดูส่วนอื่นที่ใช้ประโยชน์ได้
รากและต้น ต้มน้ำ กินแก้ร้อนใน แก้ท้องอืด แน่นท้อง

ดอก แก้หลอดลมอักเสบ มีสารยังยั้งอาการอักเสบ

เมล็ด แก้ทางเดินปัสสาวะและไตอักเสบ และบำรุงผิว



Advertisment


เห็นประโยชน์ของ กะเพรา แล้วก็ใครที่ไม่ทานกะเพรา ก็ลองหันมาสนใจ หรือนำประโยชน์ที่ได้ไปเป็นแนวทางในการศึกษา หรือบอกต่อก็ได้ หรือถ้าชอบใบกะเพราเพื่อทำอาหาร ก็ลองหามาปลูกกัน ประโยชน์นั้นมาก อย่างน้อย ก็จะได้ทานข้าวกะเพราที่แสนอร่อย

บทความโดย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/
Share:

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ครบเครื่องเรื่อง 11 สูตรพริกแกง พร้อมวิธีทำ Thai Curry Past

ครบเครื่องเรื่อง 11 สูตรพริกแกง พร้อมวิธีทำ Thai Curry Past 

พริกแดงสด
พริกแดงสด ส่วนผสมหลักในการทำพริกแกงต่างๆ

รวมสุดยอด 11 สูตรพริกแกง ไทยเราจะทำกินเอง ทำขาย ก็นำไปประยุกต์ได้ สูตรพริกแกง หรือเรียกง่ายๆ ว่า เครื่องแกง เป็นวัฒณธรรมการกินของไทยเรา จะหาสูตรพริกแกงทำอาหาร เช่น พริกแกงเผ็ด แกงส้ม แกงไตปลา แกงคั่ว แกงมัสมั่น แกงกะหรี่ แกงคั่ว แกงพะแนง แกงเขียวหวาน แกงฮังเล ทั้งหมดรวมในนี้ ครบเครื่องเรื่อง 11 สูตรพริกแกง ติดตาม

1. สูตรพริกแกงไตปลา

ส่วนผสมน้ำพริกแกงไตปลา

พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนุ่ม               5               เม็ด
พริกขี้หนูสด                                  10             เม็ด
ตะไคร้ซอย                                    ¼              ถ้วยตวง
กระเทียมไทย                                 2              ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย                                  1             ช้อนโต๊ะ
ข่าซอย                                           1              ช้อนชา
ขมิ้นสดซอย                                   2              ช้อนชา
พริกไทยเม็ด                                   1              ช้อนชา
กะปิ                                               1              ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ

วิธีทำ

- โขลกพริกขี้หนูแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

2. พริกแกงเผ็ด

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเผ็ด

พริกชี้ฟ้าแห้งน้ำเมล็ดออก              
แช่น้ำพอนุ่ม                                   10             เม็ด
ตะไคร้ซอย                                     1                 ช้อนชา
กระเทียมไทย                                 1½            ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย                                  1               ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดซอย                                ½               ช้อนชา
รากผักชีซอย                                  1                ช้อนโต๊ะ
กะปิ                                              1                 ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ                                ½               ช้อนชา

วิธีทำ

- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน


3. พริกแกงเหลือง


ส่วนผสมน้ำพริกแกงเหลือง

พริกขี้หนูแห้งแช่น้ำพอนุ่ม              5               เม็ด  
พริกขี้หนูสด                                  5               เม็ด
ขมิ้นสดซอย                                 1½             ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย                                1               ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย                               1½              ช้อนชา                  
เกลือป่นหยาบ                             1½              ช้อนชา                
กะปิ                                             ½                ช้อนโต๊ะ    

วิธีทำ

   - โขลกพริกขี้หนูแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

4.พริกแกงกะหรี่                     

ส่วนผสมน้ำพริกแกงกะหรี่

พริกชี้ฟ้าแห้งน้ำเมล็ดออก            
แช่น้ำพอนุ่ม                                  6               เม็ด
หอมแดงซอย                                3                ช้อนโต๊ะ                
กระเทียมไทย                               1½              ช้อนโต๊ะ                  
ขิงซอย                                          2                ช้อนชา
ตะไคร้ซอย                                    2                ช้อนชา                
ข่าซอย                                          2                ช้อนชา                
ลูกผักชีคั่วป่น                                2                ช้อนชา                  
ยี่หร่าคั่วปั่น                                   2                ช้อนชา              
เกลือป่นหยาบ                               1                ช้อนชา                                                    
กะปิ                                             1½              ช้อนชา      
ผงกะหรี่                                       1¼               ช้อนชา
วิธีทำ
   - โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
                                                               

5.พริกแกงมัสมั่น

ส่วนผสมน้ำพริกแกงมัสมั่น

พริกชี้ฟ้าแห้งน้ำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  5               เม็ด
เกลือป่นหยาบ                               ¼              ช้อนชา
ตะไคร้ซอยคั่ว                                ½              ช้อนโต๊ะ
หอมแดงเผาซอย                           3               ช้อนโต๊ะ
กระเทียมเผาซอย                          3               ช้อนโต๊ะ
ข่าเผาซอย                                   ½               ช้อนโต๊ะ
พริกไทยเม็ด                                 ¼               ช้อนชา
รากผักชีหั่นละเอียดคั่ว                  2                ช้อนชา
ลูกผักชีคั่วปั่น                               2                ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น                                 ¼                ช้อนชา
ลูกจันทน์คั่วป่น                           ¼                ช้อนชา
ดอกจันทน์คั่วป่น                         ¼                ช้อนชา
อบเชยคั่วป่น                              1/8               ช้อนชา
กะปิเผา                                      1                 ช้อนชา
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

6.พริกแกงคั่ว

ส่วนผสมน้ำพริกแกงคั่ว

พริกชี้ฟ้าแห้งนำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  4               เม็ด
ข่าสับ                                            1              ช้อนชา
ตะไคร้ซอย                                    1½            ช้อนชา
ผิวมะกรูดซอย                               ½              ช้อนชา
รากผักชีซอย                                  ½              ช้อนชา
หอมแดงซอย                                 2               ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย                                2                ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบ                              1               ช้อนชา
กะปิ                                              1               ช้อนชา    
พริกไทยเม็ด  
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

7. พริกแกงพะแนง

ส่วนผสมน้ำพริกแกงพะแนง

พริกชี้ฟ้าแห้งนำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  6               เม็ด
หอมแดงซอย                                 5              หัว
กะเทียมไทย                                   2              หัว
ข่าหั่นฝอย                                      1              ช้อนชา
ตะไคร้หั่นฝอย                                1              ช้อนโต๊ะ                          
รากผักชีหั่นฝอย                            1½             ช้อนชา
ผิวมะกรูดหั่นฝอย                          1½             ช้อนชา
ลูกผักชีคั่วป่น                                 1               ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น                                     ½              ช้อนชา
พริกไทยป่น                                    ½               ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ                                1               ช้อนชา
กะปิ                                               1               ช้อนชา
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

8.พริกแกงเขียวหวาน

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเขียวหวาน

พริกชี้ฟ้าสีเขียว                                7               เม็ด
พริกขี้หนูสีเขียว                               10             เม็ด
หอมแดงซอย                                  2½            ช้อนโต๊ะ
กระเทียมไทย                                  3               ช้อนโต๊ะ
ตะไคร้หั่นฝอย                                 1               ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นบาง                                       ½              ช้อนชา
รากผักชีหั่นฝอย                               1               ช้อนโต๊ะ
ลูกผักชีคั่วป่น                                 1½              ช้อนชา
ยี่หร่าคั่วป่น                                     ½               ช้อนชา
พริกไทยเม็ด                                    7                เม็ด
เกลือป่นหยาบ                                  ½              ช้อนชา
กะปิ                                                 ½               ช้อนชา
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้า พริกขี้หนู กับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน

9. พริกแกงฉู่ฉี่

ส่วนผสมน้ำพริกแกงฉู่ฉี่


พริกชี้ฟ้าแห้งน้ำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  5               เม็ด
หอมแดงซอย                                10             หัว
กระเทียมไทย                                10             กลับ
ข่าหั่นฝอย                                     4              แว่น
ตะไคร้ซอย                                    ½             ช้อนโต๊ะ
กะปิ                                              1             ช้อนชา
เกลือป่นหยาบ                              ½             ช้อนชา  
วิธีทำ          
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน
 

10.พริกแกงฮังเล

ส่วนผสมน้ำพริกแกงฮังเล

พริกชี้ฟ้าแห้งนำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  4               เม็ด
ตะไคร้ซอย                                   1               ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นแว่น                                   2                แว่น
หอมแดงซอย                               1               หัว
กระเทียมไทย                               5               กลีบ
ขมิ้นสดหั่นแว่น                            ½              ช้อนชา                
กะปิ                                            1               ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบ                             1               ช้อนชา
ผงแกงฮังเล                                  1               ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้งกับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน


11.พริกแกงส้ม

ส่วนผสมน้ำพริกแกงส้ม

พริกชี้แห้งนำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  4              เม็ด
พริกขี้หนูแห้งนำเมล็ดออก
แช่น้ำพอนุ่ม                                  3              เม็ด
หอมแดง                                      5              หัว
กะปิ                                              1             ช้อนโต๊ะ
กระชายหั่นท่อน                            1              ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นหยาบ                              1              ช้อนชา
วิธีทำ
- โขลกพริกชี้ฟ้าแห้ง พริกขี้หนูแห้ง กับเกลือป่นให้ละเอียด ค่อย ๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือ โขลกให้ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน



Advertisment


Share:

วันเสาร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2559

กะทิสดทำอาหารคาวหวานดีสุดร้านข้าวแกงจะเลือกใช้กัน

กะทิสดทำอาหารคาวหวานดีสุดร้านข้าวแกงจะเลือกใช้กัน

ถ้าเป็นไปได้ Aerk เลือก กะทิสด ดังโบราณพ่อ แม่ ปู่ ยา ทำอาหารคาว หวาน เค้าเลือกใช้ กะทิสด กัน และเป็นข้อยืนยัน สูตรน้ำจิ้มราดกล้วยปิ้งก็ใช้กะทิสด แต่ก่อนจะลงตัวก็ลองใช้กะทิกล่อง ผลปรากฎว่ารสชาติของน้ำราดกล้วยปิ้งมันไม่ใช่ อย่างทำอาหาร คาว เช่น แกงกะทิ ก็ใช้กะทิสดถ้าใช้กะทิกล่องความเป็นแกงเผ็ดรสชาติก็ไม่เหมือน ร้านขายข้าวแกงก็ใช้กะทิสด

น้ำกะทิสด
น้ำกะทิ สูตรน้ำราดกล้วยปิ้ง

ข้อดีของกะทิสด


  • กะทิสดใหม่ หาซื้อได้จากร้านขายเครื่องแกง เครื่องปรุง
  • คั้นกะทิสด สามารถบอกเจ้าของร้านว่า ขอกะทิแยกหัวและหางกะทิ
  • กะทิสดจะหอมมากกว่า กล่อง
  • สามารถเก็บในตู้เย็นได้ อย่างมากไม่เกิน 1 วัน ถ้าขายข้าวแกง ทำขนม ก็หมดแล้ว
  • หวานแบบธรรมชาติ กะทิสดหวานขึ้นจมูก ไม่หวานลึก 
  • น้ำกะทิสด หัวกะทิจะไม่ข้น
  • หาซื้อง่าย ถ้าอยู่ใกล้ตลาด
  • ถ้าบ้านใหนมีต้นมะพร้าว ก็จะคั้นตอนใหนก็ได้ เก็บทั้งลูกได้นาน
  • สามารถใช้กากมะพร้าวไปขัดถูพื้นให้มันเงาได้

ข้อเสีย

  • ราคาแพง แต่ก็ห่างกันไม่มาก ต่างกันรสชาติกะทิสดดีกว่า
  • เก็บได้ไม่นาน แก้ได้ โดยการซื้อเท่าที่ใช้
เมนูอาหารที่ใช้ กะทิสด ได้แก่ แกงเขียวหวาน ผัดเผ็ดต่างๆ น้ำยาขนมจีน แกงเลียงใส่กะทิ ขนมต่างๆ เช่น ขนมหม้อแกง ขนมชั้น ลอดช่องกะทิสด รวมมิตรกะทิสด กล้วยบวดชี บวดฟักทอง เป็นต้น การทำอาหารด้วยกะทิสดเป็นวัฒนธรรมของไทยเรามีมาช้านาน เป็นเอกลักษณ์ ที่ชาติใดในโลกไม่เหมือน สนับสนุนชาวสวนให้ปลูกมะพร้าว เพื่อความยั่งยืนทางอาหารของไทยเรา กะทิ คู่กับอาหาร คาว หวาน ไทยเรา


Advertisment


เรื่องและภาพ http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/
Share:

วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559

สูตรพริกเกลือน้ำตาลทราย เด็ด อร่อย กินกับฝรั่ง

สูตรพริกเกลือน้ำตาลทราย เด็ด อร่อย กินกับฝรั่ง

ผลไม้กับสูตรพริกเกลือ น้ำตาลทรายอร่อยมาก หรือกินกับผลไม้ได้ทุกชนิด แต่วันนี้มีฝรั่งก็เลยเข้าครัวตำพริกเกลือ เพิ่มน้ำตาลทราย รสกลมกล่อม สูตรนี้ไม่ใส่ผงชูรส เหมือนที่ขายตามรถเข็นทั่วไป ง่ายๆ เป็นสูตรโบราณที่ Aerk ได้กินมาแต่เด็ก สูตรนี้ใช้พริกแดงสด ที่ใช้ผัดกะเพรา ติดตามสูตรได้เลย

พริกแดง สด
พริกแดง สด

พริกเกลือ น้ำตาลทราย
พริกเกลือ น้ำตาลทราย กินกับฝรั่ง


ทุกวันนี้หาทานพริกเกลือแท้ๆ อร่อยๆ ยากตามรถเข็นผลไม้ ส่วนมากก็จะใช้สีแทนพริก ใส่ผงชูรส เห็นกันเป็นผงเลย น่ากลัว ลองพริกเกลือสูตรนี้แล้วจะติดใจ

สูตรและเครื่องปรุง


พริกแดงสด        4          เม็ด
เกลือป่น             2          ช้อนชา
น้ำตาลทราย      5           ช้อนชา

วิธีทำ

นำพริกล้างน้ำให้สะอาด ใส่ลงในครกหิน จากนั้นตามด้วยเกลือ แล้วตำให้เข้ากัน จะเห็นสีแดงของพริก จากนั้นตามด้วยน้ำตาลทราย ใช้ช้อนคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วตักใส่ถ้วย พร้อมกินกับฝรั่ง

สูตรพริกเกลือ น้ำตาลทราย กินกับฝรั่งอร่อยมากๆ ลองทำตามดูนะ แล้วจะรู้ว่า พริกเกลือที่ขายตามร้านผลไม้ กับพริกเกลือสูตรนี้มันอร่อยต่างกันยังไง

สูตรและภาพ BY http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/
Share:

วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559

ให้สูตรข้าวผัดปู เมนูจานด่วนไปผัดกัน ทำกินง่าย

ให้สูตรข้าวผัดปู เมนูจานด่วน

ลูกสาวอากกินข้าวผัดปู วันนี้คุณแม่เลยหาเครื่องข้าวผัดปูจากตลาดสดข้างบ้าน ก็ได้เครื่องมาครบแบบจัดเต็ม ใส่ปูเยอะมากๆ แบบไม่หวงเครื่อง เมื่อผัดออกมาผลที่ได้ไม่พอกินต้องผัดเพิ่ม สูตรข้าวผัดปูใครได้กินได้ชิมชมอร่อยทุกราย

ข้าวผัดปู
ข้าวผัดปู


ส่วนผสมและเครื่องปรุง

  • คะน้าฮ่องกง หรือคะน้าอะไรก็ได้ 
  • หอมใหญ่
  • แครอท
  • ไข่ไก่
  • เนื้อปูแกะแล้ว
  • น้ำปลา   1    ช้อนแกง
  • น้ำตาลทราย      2      ช้อนชา
  • ซ็อสเห็ดหอม    2       ช้อนชา
  • น้ำมันหอย         2       ช้อนชา
  • ผงปรุง               1       ช้อนชา
  • ข้าวสวย             3       ก้อน
  • กระเทียม           5        กลีบ
  • น้ำมันพืช           2        ช้อนชา



วิธีทำ

เตรียมผักต่างๆ ล้างเสร็จแล้ว ก็นำมาหั่นตามรูป คะน้าหั่นเฉียง หอมใหญ่ซอย แครอทใช้มีขุดเป็นเส้น
ผักต่างๆ ข้าวผัดปู
ผักต่างๆ ข้าวผัดปู แครอท หอมใหญ่ซอย คะน้ายอด

บุบกระเทียมลงกะทะ ใส่น้ำมันพืช ผัดให้หอม
กระเทียม
กระเทียม
เตรียมเนื้อปู ใส่มากได้ตามต้องการ ถ้าไปซื้อไปสั่งตามร้านอาหารตามสั่งจะได้น้อย แต่ทำเองผัดเองจัดเต็ม

เนื้อปูแกะ
เนื้อปูแกะ สดจากตลาดสด

ตอกไข่ไก่ลงในเนื้อปู ข้าวผัดปูสูตรนี้ไม่ลับ เพื่อให้ไข่ไก่ซึมเข้าเนื้อปู จะทำให้รสชาติอร่อย อย่าบอกใคร
ไข่ไก่ ผสมกับเนื้อปู
ไข่ไก่ ผสมกับเนื้อปู
 ตั้งไฟกะทะร้อน เจียวกระเทียม ตามด้วยไข่ไก่และเนื้อปูที่เตรียมไว้ ทำการผัดให้เข้ากัน

ข้าวผัดปู
ข้าวผัดปู

 ใส่ข้าวเปล่าลงไป ทำการคลุกเคล้าให้เป็นเนื้อเดียวกัน ไข่ไข่เริ่มเหลือง

ข้าวผัดปู
ข้าวผัดปู

 ใส่ผักที่เตรียมไว้ แครอท และหอมซอย จากนั้นก็ผัดๆ ให้เข้ากัน แล้วตามด้วยเครื่องปรุง น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำปลา ผงปรุงรส ซ็อสเห็ดหอม จากนั้นก็คลุดเคล้า

ข้าวผัดปู
ข้าวผัดปู

จากนั้นใส่คะน้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย ผัดจนข้าวผัดปูหอม ชิม ขาดรสใดก็เติมรสนั้น
ข้าวผัดปู
ข้าวผัดปู

 เสร็จขั้นตอนข้าวผัดปู ผัดแบบไม่มีเคล็ดลับ พร้อมกิน

สูตร  http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/


Share:

วันพุธที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู อาหารย่อยง่ายอันดับต้นๆ ยอดฮิต

เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู อาหารย่อยง่ายอันดับต้นๆ ยอดฮิต

เมนูอาหารเช้าที่ขาดไม่ได้และนิยมทานอาหารเช้าเป็นอันดับต้นๆ คือ โจ๊กหมู นั่นเองถ้าได้ร้านทำอร่อยลูกค้าเยอะ ถึงจะจ่ายแพงหน่อยก็ยอมซื้อยอมเข้าแถวรอ แน่นอนต้องใช้วัตถุที่ดีในการทำโจ๊ก เช่น น้ำซุ๊ปที่ทำจากกระดูกซี่โครหมู(เล้ง) ต้องให้รสชาติที่กลมกล่อมลงตัวก็อร่อยเกิน 70% แล้ว ที่เหลือก็เป็นเครื่องเคียง วันนี้ admin ไปหาอาหารเช้ากิน ก็มาลงตัวที่โจ๊กหมูนี่หล่ะ สั่งโจ๊กหมูใส่ทุกอย่าง ใส่ไข่ตุ๋น และอีกชามเป็นโจ๊กหมูใส่ไข่เยี่ยวม้า
เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู
เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู
โจ๊กหมูพร้อมเครื่องมากมาย ต้นหอมซอยโรยหน้า น่าทานมาก ที่ร้ายโจ๊กอร่อย ซอยเมนฮัตตั้น เคหะคลองหลวง



Advertisment


เครื่องปรุง โจ๊กหมู
เครื่องปรุง โจ๊กหมู

เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู
เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู กับ น้ำซุ๊ป

ร้านขายโจ๊กหมู
ร้านขายโจ๊กหมู มีให้เลือกหลายเมนู

สั่งมาแล้วก็ถ่ายรูปเอามาลงซ่ะหน่อย ก่อนจะกิน เครื่องครบเมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู หมูบด เห็ดหอม เครื่องใน ใส้อ่อน ตับหมู และที่ขาดไม่ได้สำหรับโจ๊กหมู คือ ขิงซอย ชอบมากๆ แต่ที่พิเศษร้านโจ๊กหมูร้านนี้คือ มีน้ำซุ๊ปกระดูกหมู หรือเล้งมาให้ชิมด้วย

การกินโจ๊กต้องปรุงด้วยนะ ถึงจะอร่อย เครื่องปรุง ซอสเห็ดหอม พริกป่นคั่ว พริกไทป่น และพริกน้ำส้ม กล่าวถึงพริกน้ำส้มต้องเป็นพริกใหญ่ คือตอนกินโจ๊กต้องกินพริกน้ำส้มไปด้วย เวลาเคี้ยวพริกยะให้ความรู้สึกถึงความมันของพริกกับโจ๊กหมูได้เป็นอย่างดี พร้อมกับรสชาติของขิงซอยที่เป็นเอกลักษณ์


เล็กๆ น้อยจากโดจ๊กหมู ที่มา https://www.doctor.or.th
โจ๊กหมู 1 ชามประมาณ 255 กรัม จะให้พลังงานใกล้เคียงกัน ทั้งโปรตีน คาร์ไบไฮเดรตและไขมัน

คุณค่าโภชนาการข้าวต้มหมู 1 ชาม หรือโจ๊กหมู เรากินข้าวต้มหมู 1 ชาม เป็นอาหารเช้า ให้พลังงาน 307 กิโลแคลอรี เป็นอาหารที่ให้พลังงานไม่มากนัก ไม่ถึง 1 ใน 3 ของความต้องการพลังงานใน 1 วัน/มื้อ

เมื่อกินข้าวต้มหมู 1 ชาม เราจะได้คาร์โบไฮเดรตจากข้าว ได้โปรตีนและไขมันจากหมูติดมันเล็กน้อยจากพลังงานของอาหารที่ได้รับ 1 มื้อต่อวัน เพื่อให้ได้คุณค่าทางโภชนาการเหมาะสมยิ่งขึ้น

ควรเพิ่มน้ำผลไม้ 1 แก้ว (น้ำผลไม้ไม่ควรเติมน้ำตาล) ให้พลังงาน 123 กิโลแคลอรี คาร์โบไฮเดรต 29 กรัม ไขมัน 0.2 กรัม โปรตีน 1.3 กรัม ในน้ำส้ม นอกจากจะให้พลังงานแล้ว ยังมีวิตามินซีสูง และช่วยระบบขับถ่ายได้ดีด้วย

ข้าวต้มหรือโจ๊กหมู 1 ชาม และน้ำส้ม 1 แก้ว จะให้พลังงานใกล้เคียงกับความต้องการของร่างกายใน 1 มื้อ อาจเพิ่มอาหารว่างได้อีกเล็กน้อย เช่น ฝรั่ง 1 ผลเล็ก

เมนูแนนำ เมนูอาหารเช้า โจ๊กหมู ใครผ่านไปผ่านมา ก็แวะไปได้ที่อยู่หน้าร้านทอง ชื่อร้าน โจ๊กอร่อย อยู่ ที่เคหะคลองหลวง ซอยแมนฮัตตั้น เยื่องนวนคร มีให้เลือกหลายเมนู รับรองอร่อย ราคาไม่แพง 35 บาท น้ำดื่มฟรี


Advertisment

รูปและเรื่องโดย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/

Share:

4 เมนูแกงใต้ รสเด็ด เผ็ด จืด แค่นี้ก็อร่อยๆ แล้ว

4 เมนูแกงใต้ เผ็ด จืด แค่นี้ก็อร่อยๆ แล้ว

อาหารใต้มีมากมาย แต่จะแนะนำ 4 เมนูแกงใต้ รสเด็ด เผ็ด จืด ซึ่งรวมในมื้อเดียว บางท่านที่เห็นแกงใต้ตามร้านขายข้าวแกงมากมาย แต่จะเลือกกินอะไรดี บางคนเลือกไม่ถูก บางคนเลือกเอาที่เด็ดสุด เผ็ดสุดราดข้าวแค่ 2 อย่าง หนึ่งในนั้นก็จะมี แกงเผ็ด คั่วกลิ้ง ต้มจืด แต่วันนี้จะแนะนำเมนูใต้ที่รวมแกงส้ม คือเป็นคนที่ชอบกินอาหารใต้ แกงส้ม คั่วกลิ้ง ต้มจืด น้ำพริก กินผักสด

บังเอิญได้ไปกินอาหารใต้ แล้วก็มีเมนูอาหารใต้เยอะมาก แต่ก็ยืนเลือกอยู่ซักพักว่าจะกินเมนูใหนดี จนสุดท้าย ก็มาจบตรงที่ แกงส้ม ต้มจืด คั่วกลิ้ง แถมน้ำพริกผักสดฟรี งานนี้สั่งข้าวเพิ่มไปอีกจาน อิ่มเลย แต่สุดท้าย ผักสดหมดก่อน เพราะเจอ คั่วกลิ้งรสจัดเข้าไป ไปดูรูปร่างหน้าตา 4 เมนูแกงใต้ได้เลย

รวมเป็นเมนูแกงใต้ที่ขาดไม่ได้


เมนูแกงใต้
เมนูแกงใต้
 เมนูแกงใต้ 1) แกงส้ม เป็นแกงใต้ที่ขาดไม่ได้ เครื่องแกงใส่ขมิ้น เหลือง พริกแกงทำเองใช้พริกสดเผ็ดจัดน่าดู



Advertisment


แกงส้ม
แกงส้ม แกงใต้รสเด็ด

เมนูแกงใต้ 2) คั่วกลิ้ง เป็นเมนูฮิต เหมือนกับว่า เป็นเมนูใต้ที่ ทุกภาคของไทยหาทานได้ คั่วกลิ้งต้องกินกับผักสดเท่านั้นถึงจะอร่อย คือสามารถที่จะลดความเผ็ดลงได้ โดยแนะนำให้กินมะเขือสดซึ่งสามารถลดความเผ็ดของคั่วกลิ้งลงได้ จะเป็นมะเขือเปราะ หรือมะเขื่อม่วงก็ได้ มีแตงกวาด้วยยิ่งดี แตงกวาแช่น้ำแข็งให้เย็นรับรอง สุดๆไปเลย
คั่วกลิ้ง
คั่วกลิ้ง
เมนูแกงใต้ 3) น้ำพริกกะปิ กับผักสด เมนูนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของร้านขายแกงใต้ไปแล้ว จะต้องมี ซึ่งเป็นเมนูแถมให้กับลูกค้า ร้านใหนที่ไม่มีบริการให้ลูกค้า ถือว่าไม่ผ่าน ถึงจะมีแกงคั่วกลิ้งแล้วก็ตาม แต่ต้องมีน้ำพริกกะปิด้วย
น้ำพริกกะปิ
น้ำพริกกะปิ
ผักสด
ผักสด ใบบัวบก, มะเขือม่วง, แตงกวา, ถั่วฝักยาว
เมนูแกงใต้ 4)  ต้มจืด จะเป็นต้มจืดอะไรก็ได้ ที่สามารถตัดความเผ็ดของคั่วกลิ้ง และน้ำพริกกะปิลงได้ แกงจืด หรือต้มจืดจะต้องออกรสเค็มซักนิด เพราะความเค็มสามารถลดความเผ็ดได้


ต้มจืด
ต้มจืดผักกาดดอง

4 เมนูแกงใต้ รสเด็ด ที่กล่าวมา เด็ดจริงๆ ได้กินเมนูอาหารใต้ครบทุกรสชาติ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วแถมได้ประโยชน์จากการกินผักสดด้วย แน่ๆ ที่ชอบมากสำหรับเมนูนี้ คือ คั่วกลิ้งกับกับมะเขือม่วง ถือเป็นที่สุด จำต้องเพิ่มข้าวเปล่าอีกหนึ่งจาน อิ่มเลย



Advertisment


อยากทำน้ำพริกเป็น ทางนี้
อยากทำคั่วกลิ้งเป็น ทางนี้
Share:

รีวิว โดนัท Krispy Kreme กินคู่กับชาเขียวเข้าท่าดี

รีวิว Krispy Kreme โดนัท กินคู่กับชาเขียวเข้าท่าดี

ชวนดูรีวิว โดนัท Krispy Kreme ที่สุดของความนุ่มทานคู่กับชาเขียวรสดั้งเดิม (Original) จะมีอะไรดีไปกว่าการไก้ชิมโดนัทรสดั้งเดิมของ Krispy Kreme ที่ฟิวเจอร์รังสิต หลังจากกินซูกิชิ(Sukishi) เสร็จก็จัดต่อ โดนัทรสดั้งเดิม ของ Krispy Kreme ก็เดินตรงไปที่เค้าท์เตอร์ แล้วก็ให้นักชิม ก็คือลูกสาวเลือกจะเอารสใหน ก็มีให้เลือกหลายแบบ แต่ก็เลือกรสดั้งเดิม ต่อไปเลือกขนาดว่าจะเอากี่ชิ้น ก็เอา 12 ชิ้น หรือ 1 โหล พูดถูกหรือเปล่า รวมแล้วราคา โดนัท Krispy Kreme 249 บาท และแล้วก็ถึงบ้าน เปิดกล่อง แต่จะกินแต่เฉพาะโดนัทอย่างเดียวก็กะไรอยู่ ก็เลยไปซื้อชาเขียวโออิชิรสดั้งเดิมขวดราคา 20 บาทมา ก็ผลดังรูป


Advertisment


โดนัท Krispy Kreme
โดนัท Krispy Kreme หน้าหล่อง

โดนัท Krispy Kreme
โดนัท Krispy Kreme ชิมไปเสี้ยวหนึ่ง

ได้เวลาชิมโดนัท Krispy Kreme


เห็นภายนอกโดนัท มีน้ำตาลเคลือบอยู่รอบๆ แป้งโดนัท เมื่อกัดคำแรกรู้สึกถึงความนุ่มของแป้ง เหมือนกับหมอนนอนที่เอามือกดแล้วยุบตามอะไรประมาณนั้น น้ำตาลที่ถูกกัดกินแตะกับลิ้นสัมผัสได้ถึงความหวานของน้ำตาล กลืนลงคอ โอ้โดนัท Krispy Kreme อร่อยมาก ตามด้วยชาเขียวรสดั้งเดิม ก็เข้ากันนะ รับรองว่ากินโดนัทชิ้นเดียวไม่มีพอ จะต้องเพิ่มอย่างน้อย 3 ชิ้นถึงจะเอาอยู่

จากการทดสอบ 555 ทดสอบโดนัท Krispy Kreme เออ คือว่า หวานมากครับ ใครชอบหวานเชิญเลยมันเหมาะมากๆ อิอิ ทานมากเป็นเบาหวานแน่เลย ซื้อมา 12 ชิ้นในราคา 249 บาท ทานไป 3 ชิ้น ก็อิ่มแล้ว เดี๋ยวเป็นเบาหวาน ที่เหลือก็เก็บใส่ตู่เย็นไว้ทานต่อวันถัดไป

ทานโดนัทอย่างไรไม่ให้อ้วน แนะนำว่าให้ออกกำลังกาย ออกกำลังกาย เผาผลาญพลังงานที่ได้จากโดนัท ให้ออกไปกับเหงื่อ คราวนี้ก็จะทานโดนัทยังงัยก็ไม่อ้วนแน่นอน พักผ่อนเพียงพอ สวัดดีบายๆ



Advertisment


เรื่องและภาพโดย http://thaifoodrecipesmake.blogspot.com/
Share:

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก

Recent Posts

Recent Posts Widget

ผู้สนับสนุน